รีวิว เมืองเวทมนตร์ คนมหัศจรรย์
Encanto (เมืองเวทมนตร์ คนมหัศจรรย์) ภาพยนตร์แอนิเมชันแนวมิวสิคัลตลกแฟนตาซีสัญชาติอเมริกัน ผลิตโดยวอลต์ดิสนีย์พิกเชอส์และวอลต์ดิสนีย์แอนิเมชันสตูดิโอส์ จัดจำหน่ายโดยวอลต์ดิสนีย์สตูดิโอส์โมชันพิกเชอส์ โดยเป็นภาพยนตร์ลำดับที่ 60 ที่สร้างโดยสตูดิโอนี้ กำกับโดย Byron Howard and Jared Bush พร้อม Charise Castro Smith ร่วมกำกับ และเพลง
เนื้อเรื่อง รีวิว เมืองเวทมนตร์ คนมหัศจรรย์
ประกอบภาพยนตร์โดย หลิน มานวยล์ มิแรนด้าที่กวาดผลงานจอเงินมาแทบจะทุกไตรมาสของปีนี้ ตั้งแต่ มิวสิคัลทุนสูงอย่าง In The Heights อนิเมชั่นหมีน้ำผึ้งโซนี่ในเน็ตฟลิกซ์อย่าง VIVO และผลงานกำกับเรื่องแรกที่ได้คำชมอย่างล้นหลามใน Tick, Tick… Boom! มาคราวนี้เขาจะมารังสรรค์ผลงานมนต์เพลงละตินสุดตื่นเต้นและงานภาพสุดตระการตาผ่านเรื่องราวของ มิราเบล เด็กหญิงคนเดียวในครอบครัวมาดิกัลแห่งบ้านปาฏิหารย์ ผู้ไร้พลังเวทมนตร์เมื่อเทียบกับคนอื่น และถูกมองข้ามจาก
ครอบครัวอยู่เสมอ กระทั่งภัยร้ายที่ซุกซ่อนได้คืบคลานสู่พวกเขา ขอต้อนรับสู่ เมืองเวทมนตร์ คนมหัศจรรย์ ในดินแดนอันลึกลับของประเทศโคลัมเบียที่ซึ่งครอบครัวมาดิกัลทุกคนได้รับพลังจากเทียนวิเศษแห่งปาฏิหารย์ที่จะมอบพลังให้กับคนในครอบครัวจากรุ่นลูกสู่รุ่นหลาน ยกเว้นเพียงมิราเบล เด็กหญิงผู้มั่นใจและไม่เคยหวั่นไหวแม้ตัวเองจะถูกมองข้ามจากคนในครอบครัว รวมถึงคุณยายผู้กุมความลับของความพิเศษของบ้านหลังนี้ไว้ อนิเมะ
ให้ครอบครัวรักใคร่กลมเกลียวตลอดมา กระทั่งวันแห่งการรับพลังของญาติเสมือนน้องชายเธอ อันโตนิโอ้ ได้ทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงบางอย่างที่อาจทำลายบ้านและครอบครัวที่เธอรัก ท่ามกลางสายตาของคนในครอบครัวที่มองว่าเธอเพี้ยน มิราเบลยึดมั่นที่จะค้นหาคำตอบผ่านความลับอันดำมืดที่ครอบครัวเก็บซ่อน แต่ยิ่งเธอเข้าใกล้ความลับนั้นมากเท่าไหร่ บ้านแห่งนี้ก็ทรุดตัวลงและใกล้วันที่จะพังทลาย ซึ่งต้นตอนั้นอาจจะมาจากตัวเธอเองด้วยซ้ำ มิราเบลจะทำอย่างไร เธอจะสามารถรักษาบ้านหลังนี้แม้ไม่ใช่คนวิเศษเหมือนใคร ๆ ได้หรือไม่
เรื่องราวการนำเสนอวัฒนธรรมของโคลัมเบียที่มาพร้อมกับสไตล์ละครมิวสิคัลคอยเล่าเรื่องหรือเฉลยปมของตัวละครสอดแทรกแบบ Frozen 2 แต่ไม่ได้ใช้สเกลของเรื่องอะไรมากมายและไม่ต้องการตัวละครหลักผู้ชายมาคู่กับตัวละครหลักหญิง ถ้าใครดูอนิเมชั่นดิสนีย์มาเยอะ คุณไม่ต้องคิดอะไรมากเลยกับเรื่องนี้ เพราะดิสนีย์มีสูตรสำเร็จยังไง มันก็เป็นยังงั้น ตัวละครแบบไม่พิเศษ ใส่แว่นหนาเตอะ แต่ต้องทำอะไรโดดเด่น ๆ และช่วยเหลือคนอื่น ๆ อาจเพราะมันเป็นอนิเมชั่นที่เหมาะกับการขายครอบครัว อนิเมะออนไลน์
ในช่วงวันขอบคุณพระเจ้าที่อเมริกา หนังจึงค่อนข้างเน้นความสดใสและตัวละครที่มีจุดเด่นยิบย่อย และการเล่าเรื่องที่ค่อนข้างง่าย และกล้าพูดได้เลยว่า เอางี้เลยเหรอ ทำไมจบปมหลักก็จบเอาง่าย ๆ ทั้งที่บางอย่างนั้นสามารถเล่าขยายให้รู้สึกหนักแน่นได้มากกว่านี้ รู้สึกว่าดิสนีย์เดี๋ยวนี้จะเน้นเล่าตัวละครหลักเป็นสำคัญและให้ตัวละครอื่นไม่เป็นรองก็ขโมยซีน ซึ่งก็ยอมรับว่ามันได้ผล แต่มันไม่ได้ช่วยส่งเสริมเส้นเรื่องหลักหมดทุกตัว คุณดูจบคุณอาจจะอิ่มเอมแต่ก็คงลืม ๆ ไปได้ แม้จะมี
บางช่วงที่หม่นหมองและอารมณ์ที่ค่อนข้างเศร้า หนังสามารถขยี้ให้เราอินและร้องไห้ตามได้ เพราะดิสนีย์มีไม้เด็ดของตัวเองคือการเล่าเรื่องที่แม้จะใช้สูตรเดิม แต่ก็จะมีรายละเอียดยิบย่อยที่แตกต่างและน่าสนใจอยู่เสมอ เชื่อว่าถ้ามองข้ามความเป็นสูตรสำเร็จ มันก็ยังเป็นหนังที่ดูสนุกและเพลิดเพลินไปกับมันได้จนจบอยู่ดี แม้จะมีบางช่วงที่ใครไม่ชอบแนวเอะอะร้องเพลงอาจจะเบื่อได้
ในส่วนของตัวละครนั้นก็มีการกระจายบทที่ค่อนข้างไม่สมดุล มีแค่ตัวหลักไม่กี่ตัว มิราเบลคือตัวแทนของผู้หญิงคนหนึ่งที่เหมือนลูกคนสุดท้องที่พยายามมีส่วนร่วมกับครอบครัวแต่กลับโดนครอบครัวนั้นผลักไสโดยที่เธอต้องแบกรับความรู้สึกในด้านลบ คาร์แร็คเตอร์ของเธอก็น่าจะเป็นชื่นชอบเพราะด้วยบุคลิกที่เข้าถึงง่าย มีความตลกและน่ารักสดใส และเป็นเหมือนตัวละคร
หลักแบบสูตรสำเร็จพาเราไปสำรวจเรื่องราวความทุกข์ระทมได้อย่างขมขื่นและน่าเห็นใจ แต่นอกนั้นก็ค่อนข้างจะเฉย ๆ ในขณะที่ บรูโน่ ตัวละครตัวแทนของคนที่รักครอบครัวมากจนยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อปกป้องคนในครอบครัวแม้จะถูกมองว่าเป็นคนนำความโชคร้ายมาสู่ครอบครัว แต่เขาก็ยังคอยดูแลและมองดูครอบครัวอยู่ห่าง ๆ แม้บทจะไม่ได้มีอะไรมากนัก แต่ก็ยังน่าสนใจตรงที่เขามีอารมณ์ที่หลากหลาย อาบูเอล่า คุณยายของมิราเบลที่ภาพลักษณ์ดูเป็นผู้นำของครอบครัวและห่วงใย ดูอนิเมะ
ครอบครัว แต่เธอก็เมินเฉยและมองข้ามมิราเบลเสมอมา เพียงเพราะเธอไม่มีพลังวิเศษ ตัวละครนี้นน่าจะเป็นตัวละครที่อาจจะทำให้ใครหลายคนรู้สึกไม่ชอบ กระทั่งการเฉลยเหตุผลและปมที่แม้จะธรรมดา แต่ก็เรียกน้ำตาได้พอสมควร นอกนั้นตัวละครเหมือนกะจะขายคาร์แร็คเตอร์หลากหลายไม่ซ้ำใครแต่ใช้ไม่คุ้ม ทั้งลุยซ่า หญิงแกร่งทรงพลังที่มีความอ่อนไหว อิซาเบลล่า
หญิงสาวผู้เบ่งบานสะพรั่งดั่งดอกไม้ที่แท้จริงเธอก็อยากจะสนุกกับชีวิตมากกว่าทำตามครอบครัวและไม่ถูกกับมิราเบล เปป้า น้าสาวของมิราเบลที่สามารถใช้อารมณ์ควบคุมสภาพอากาศ โดโรเรสผู้สามารถได้ยินเสียงที่ห่างไกลแม้เพียงเข็มตก ที่สองคนหลัง ๆ นี่เหมือนมาเพื่อเป็นตัวตลกมากกว่าขับเคลื่อนพล็อต เช่นเดียวกับตัวละครที่ไม่ได้กล่าวถึงก็มาเพื่อสร้างเสียงหัวเราะแต่ไม่ได้ช่วยให้เรื่องนั้นน่าสนใจและเดินหน้ามากเท่าที่ควร
ประเด็นของเรื่องหลัก ๆ แล้ว คือเรื่องของความเป็นบ้านและครอบครัวที่ไม่สำคัญว่าจะพิเศษแค่ไหน แต่การที่ได้อยู่ร่วมกันนั้นคือความพิเศษที่สุดมากกว่าบ้านที่เราอาศัย จะมีเวทมนตร์หรือไม่มีไม่ใช่สิ่งสำคัญ ในบางครั้งการที่เราพยายามจะรักษาครอบครัวด้วยการปิดบังความจริงและกีดกันคนอื่นออกไปนั้น มันก็คือการทำลายครอบครัวเหมือนกัน เพราะทุกครั้งที่ความจริงหลุดออกมา มันจะยิ่งทำให้ครอบครัวนั้นมีรอยร้าวมากกว่าที่มันควรจะเป็น หรือแม้แต่การที่เราไม่เหมือนคนอื่น ไม่ได้
หมายความว่าเรานั้นไม่ได้พิเศษ เราแค่ต้องเชื่อมั่นในตัวเองและใช้ความสามารถตัวเองให้เป็นประโยชน์ที่สุดกับครอบครัว และยอมรับความเจ็บปวดและความเป็นพิษต่อใจในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและกล้าระบายมันออกมามากกว่าจะเก็บมันเอาไว้ ไม่มีอะไรสมบูรณ์แบบ ครอบครัวก็เช่นกัน แต่สิ่งที่สำคัญคือเรารักกันหรือไม่ น่าสนใจคือประเด็นการอพยพที่หนังใส่มาด้วยความโหดร้ายของการล่าอาณานิคมที่ผลักดันให้ผู้คนต้องหนีออกมาจากบ้านที่พวกเขาอยู่ และต้องสูญเสียอะไรมากมายกว่าจะสามารถสร้างตัวตน และบางครั้งมันก็เปลี่ยนแปลงสิ่งดี ๆ ที่มันเคยมีอยู่ แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องไม่ลืมเหตุผลในการมีชีวิตอยู่เพื่อสิ่งที่ดีกว่า
พูดถึงดิสนีย์ก็ต้องพูดถึงอนิเมชั่น ซึ่งสวยขึ้นทุกเรื่องที่ทำมา และเรื่องนี้พ่วงมาด้วยสีสันของเรื่องที่ให้อารมณ์สดใสและการเคลื่อนไหวที่เป็นธรรมชาติของตัวละคร ในขณะที่มุมกล้องจะมีความเป็นมิวสิคัลให้ตัวละครออกมาร้องเพลงมีแสงสีเล่นใหญ่อลังการแบบตัวละครมามุงร่วมกันร้องเพลง และมีฉากประกอบสลับกับมุมกล้องแบบภาพยนตร์อนิเมชั่นดิสนีย์ที่คุ้นเคยอย่าง ดูอนิเมะออนไลน์
การโฟกัสที่ตัวละคร หรือ ทัศนียภาพที่เห็นแล้วสวยสดงดงาม ในขณะที่เพลงประกอบผมมีความรู้สึกว่ามันแปลเนื้อไทยออกมาค่อนข้างจะฟังไม่รู้เรื่องเท่าไหร่ ยอมรับว่าพากย์ไทยดีจริง แต่เพลงประกอบอื่น ๆ ที่แสนไพเราะ กลับไม่ใช่เพลงที่ร้องแปลไทย กลับเป็นเพลงต้นฉบับที่ได้อารมณ์อินกว่า และบางเพลงก็แอบรู้สึกว่ามันค่อนข้างจะซ้ำซากและฟังยากด้วย อาจเป็นเพราะมัน
ได้คนแต่งเพลงจากละครเวทีผสมผสานกับดนตรีแนวละตินทำให้จังหวะทำนองมันค่อนข้างแปลกไปจากเพลงที่ดิสนีย์ทำมา บางครั้งก็ขึ้นร้องท่อนแปลก ๆ บางครั้งจังหวะก็ไม่ตรง แต่ถ้าฟังผ่าน ๆ เราก็พอจะสนุกไปกับมันได้ แต่พอแปลแบบนี้ทำให้มีปัญหาในการติดตามตัวละคร ซึ่่งเป็นผลให้ตัวละครบางตัวเป็นได้แค่ตัวตลกมากกว่าจะขับเคลื่อนเรื่องราวแทน ทั้งที่ถ้าแปลดีกว่านี้น่าจะเข้าใจตัวละครสำคัญมากขึ้น
จะว่าไปหนังแอนิเมชั่นเรื่องของดิสนีย์นั้นก็ดูดร็อปต่างไปจากเรื่องอื่น เพราะถือว่าเป็นหนังที่ไม่ได้มีดาราท็อปสตาร์แถวหน้าของวงการมาพากย์เสียงตัวละครต่างๆ เพื่อดึงดูดและเป็นแรงจูงใจในการเรียกผู้ชม จึงทำให้ Encanto ค่อนข้างมีแรงประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับที่เบาบางไปอย่างน่าเสียดาย แต่กระนั้นภาพรวมของหนังเรื่องนี้ถือว่าถ่ายทอดออกมาใช้ได้ และถือว่ารักษามาตรฐานความเอ็นจอยในหมวดหนังการ์ตูนดิสนีย์
และ กลับกลายเป็นว่าแก่นเรื่อง และ ประเด็นหลักของหนังเป็นสิ่งที่ค่อนข้างแข็งแกร่ง และ โดดเด่นที่สุด อีกทั้งเป็นองค์ประกอบที่ผู้เขียนชอบที่สุดในเรื่องนี้ด้วย หนังใช้เรื่องเวทมนตร์ที่ดูแฟนตาซีสุดๆ เข้ามาผนวกกับประเด็นการค้นหาตัวตนของตัวเองได้อย่างขึงขัง และ ลงตัวเป็นอย่างดี ถึงจะมีบางจุดที่ยังไม่กลมกล่อมสักเท่าไหร่ แต่พอได้ลองได้สัมผัส และ แทรกซึมเข้าไปกับเนื้อเรื่องภาพรวมของหนังแล้ว ก็ทำให้อินกับหนังได้เป็นอย่างดี
การเล่าเรื่องของ Encanto ถือว่าไม่มีอะไรแปลกใหม่สักเท่าไหร่นัก การวางจังหวะ และ โทนของหนังถือสอบผ่านได้ด้วยดี การหยิบเอาวัฒนธรรมพื้นถิ่นของชาวลาตินเข้ามาเป็นส่วนผสมหลัก ก็ถือว่าเป็นการถ่ายทอดที่มีความเป็นสากลอยู่ค่อนข้างมาก และ ไม่ได้ทำให้ผู้ชมรู้สึกมีระยะห่างเกี่ยวกับความแตกต่างในละพื้นเพ นับว่าเป็นความสำเร็จในการปลดแอก และ เสริมความหลากหลายทางเชื้อชาติได้เป็นอย่างมาก รีวิวการ์ตูน
Encanto ถือว่าเป็นหนังที่เป็นการประกอบร่างของผู้กำกับ และ นักเขียนทีมค่อนข้างใหญ่ ถือแม้ว่าหนังจะไม่ถึงขั้นสมบูรณ์แบบอะไรก็ตาม แต่ก็ถือว่าเป็นการผนึกกำลังที่สร้างโครงเรื่องได้เข้มแข็ง และ ยังมีองค์ประกอบงานสร้างที่ดีงามอีกด้วย งานออกแบบตัวละคร และ แอนิเมชั่นต่างๆ ถือว่าทำได้ดี เก็บรายละเอียดเล็กน้อยได้ค่อนข้างได้ครบ เป็นอีกหนึ่งสไตล์หนังแอนิเมชั่นดิสนีย์ที่มีสีฉูดฉาดจัดจ้านอยู่เยอะ และ ยังใส่จังหวะที่แปลกไม่ค่อยได้เห็นเข้ามาด้วย
ในขณะที่อีกไฮไลต์งานเพลงประกอบของหนัง Encanto คงจะต้องบอกว่า หากมาเปิดฟังแห้งๆ แบบไม่เห็นภาพก็คงจะไม่ออกอรรถรสสักเท่าไหร่ แต่เมื่อมาดูทั้งภาพ และ เสียงควบคู่ไปด้วยกัน ปรากฏว่ากลายเป็นส่วนที่ส่งเสริมไปด้วยกันได้ดี และ เพลงในหนังเรื่องนี้ก็ฟังดูแตกต่างไปจากเพลงจากหนังการ์ตูนดิสนีย์ทั่วๆ ไปอีกด้วย เพราะเป็นการผสมผสานเพลงคลาสสิก เข้ากับจังหวะร่วมสมัย มีทั้งเพลงป็อบจังหวะเด่นๆ เพลงบัลลาดตรึงใจ และ เพลงมิวสิคัลที่เป็นเอกลักษณ์
เพลงที่ติดหูได้ง่ายๆ อย่าง “The Family Madrigal”, “All of You”, “We Don’t Talk About Bruno” หรือ “Waiting On A Miracle” ที่เป็นเพลงตามมาตรฐานของหนังดิสนีย์ ที่เชื่อว่าอาจจะมีสักเพลงในนี้ได้มีโอกาสติดโผเข้าชิงรางวัลอยู่บ้าง แต่กลายเป็นว่าเพลงที่แอบชอบสุดๆ ของหนังเรื่องคือ “Surface Pressure” ที่เป็นเพลงประจำตัวละคร ‘ลุยซ่า’ ในเรื่อง ที่พอฟัง และ ดูหนังประกอบด้วย กลายเป็นเพลงที่ให้อารมณ์ขบขันแบบเซอร์ไพรส์ไม่เบา