รีวิว Dumbo
Dumbo 2019 เริ่มต้นด้วยฉากแนะนำคณะละครสัตว์ Medici Brothers’ Circus’s กลุ่มตัวละครหลักของเรื่องว่าเป็นทัวร์แสดงที่เดินทางไปทั่วประเทศ ถึงแม้จะมีชื่อเสียงบ้างแต่ก็ยังต้องกระเสือกกระสนด้วยภาวะหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 ในฉากนี้นี่เองที่ดูแล้วรู้เลยว่าหนังยังไม่ทิ้งแนวการ์ตูนออกไป เพราะภาพท้องฟ้าและฉากต่างๆ มีสีสันเกินความเป็นจริง
เนื้อเรื่อง รีวิว Dumbo
ที่สถานีรถไฟวันหนึ่ง มิลลี่กับโจที่เสียแม่ไปจากการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่กำลังรอพ่อของพวกเขากลับมาจากสงคราม แต่ก็ต้องพบว่า โฮสท์ พ่อของพวกเขาเสียแขนซ้ายไปข้างหนึ่งให้กับสงคราม หลังจากทักทายกับคนอื่นๆ ในคณะละครสัตว์แล้ว โฮสท์เข้าไปเจรจากับเมดิซี่เจ้าของคณะละครสัตว์ขอกลับมาแสดงขี่ม้าอีกครั้ง แต่ความยากลำบากของคณะทำให้เมดิซี่ตัดสินใจขายม้าไปหมดตั้งนานแล้ว
แต่โชคยังดีเมดิซี่เพิ่งจะลงทุนก้อนใหญ่ไป เขาซื้อช้างเอเชียท้องแก่มาหนึ่งตัว ตั้งชื่อให้ว่าจัมโบ้ และตั้งใจจะให้โฮสท์กับลูกๆ เป็นคนเลี้ยงช้าง โฮสท์เองที่ถึงแม้จะไปชอบและฝืนอยู่บ้างก็ต้องจำใจทำกิน จนเช้าวันหนึ่ง จัมโบ้ดื้อไม่ยอมออกจากรถไฟ คนดูแลสัตว์คนอื่นๆ สั่งไม่ได้ ดูไปดูมาโฮสท์กับลูกๆ จึงได้พบว่าจัมโบ้ได้ให้กำเนิดลูกช้างตัวผู้ซ่อนไว้ใต้กองฟาง
หนังแสดงให้ดูฉากแม่ช้างปกป้องลูกเล็กๆ น้อยๆ ไม่ได้ขยี้หรือลากยาวจนเกินความจำเป็น ฝังความคิดเข้าหัวคนดูไว้ว่าเจ้าลูกช้างยังคงเป็นเพียงแค่เด็กน้อยเกิดใหม่ ไม่นานนัก เมดิซี่เห็นรูปลักษณ์หูกางๆ ใหญ่ๆ แล้วรับไม่ได้ คิดว่าตัวเองโดนต้มตุ๋น แต่ขณะเดียวกันก็ขายบัตรให้คนมาดูลูกช้างเกลี้ยงหมดแล้ว โฮสท์เลยต้องรับหน้าที่จำเป็นหาทางแก้ไขยังไงก็ได้เกี่ยวกับหูคู่นั้น ก่อนวันแสดงมาถึง อนิเมะ
ลูกช้างถูกนำไปเลี้ยงแยกกับแม่ ขณะที่มิลลี่กับโจกำลังพยายามสอนให้ใช้จมูกเป่าหูออกไม่ให้บังหน้า ลูกช้างก็ซนพยายามเล่นขนนกบนเสื้อเด็กๆ จนเผลอสูดเข้าไป กลายเป็นว่าจามออกมาแล้วกระพือหู บินได้! แต่โชคร้าย ในตอนนี้ยังไม่มีใครเชื่อมิลลี่กับโจว่าเห็นลูกช้างบินได้ แม้กระทั่งพ่อของตัวเอง ทั้งสองยังไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าทำไมลูกช้างถึงบิน (แต่คนดูรู้แล้ว)
เมื่อวันแสดงมาถึง โฮสท์ใช้วิธีเอาผ้าผูกหัวง่ายๆ ปิดหูคู่นั้นเอาไว้ ลูกช้างร่ำลากับแม่ช้างแล้วนั่งรถเข็นไปที่เต็นท์แสดงตัวร่วมกับช้างตัวอื่นๆ การแสดงดำเนินไปอย่างปกติ แต่ด้วยความซนอีกครั้ง ลูกช้างใช้จมูกดูดหมวกขนนกของคนดูมาเล่นแล้วจามตกจากรถเข็นและผ้าปิดหลุดจนทำให้คนดูทั้งหมดเห็นหูคู่นั้น
คนดูเห็นลูกช้างเป็นตัวประหลาดน่าตลกก็พากันปาข้าวของใส่ ตั้งชื่อให้ว่า “ดัมโบ้” ตามป้ายบนรถเข็นที่หักแล้วบังเอิ๊ญบังเอิญเรียงกันว่า Dumbo พอดี เมื่อจัมโบ้ได้ยินเสียงคนดูจึงเป็นห่วง คุ้มคลั่งพุ่งมาหาลูกในเต็นท์ ทุกอย่างเริ่มโกลาหล โฮสท์คุมช้างไว้ไม่อยู่ ทุกคนต้องพากันหนีออกจากเต็นท์ จนในที่สุดจัมโบ้ทำเต็นท์ล้มและเสาก็หักลงมาทับรูฟัสคนดูแลสัตว์อีกคนหนึ่งตาย
เมดิซี่หมดความอดทนกับเหตุการณ์ทั้งหมด ตัดสินใจขายจัมโบ้คืนครึ่งราคา ไม่มีใครห้ามการตัดสินใจครั้งนี้ได้ ดัมโบ้ต้องพรากจากกับแม่ในที่สุด ในคืนนั้นเอง มิลลี่กับโจเข้าไปปลอบดัมโบ้ มิลลี่บอกดัมโบ้ว่าเธอเข้าใจความคิดถึงแม่ เธอเองก็มีกุญแจห้อยคอเป็นของต่างหน้าแม่เหมือนกัน พยายามพูดเกลี้ยกล่อมให้ดัมโบ้บินให้ได้อีกครั้ง จนในที่สุด รอบนี้ทั้งคู่รู้แล้วว่าต้องใช้ขนนกเท่านั้นล่อให้ดัมโบ้บิน
เมื่อการแสดงรอบต่อไปมาถึง ดัมโบ้ถูกย้ายไปรอบแสดงตัวตลก ต้องขึ้นลิฟต์สูงๆ ไปพ่นน้ำดับไฟตึกจำลอง เหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้น ระบบควบคุมไฟกับลิฟต์เสียหาย ไฟลุกโชนและลิฟต์หัก ดัมโบ้ติดอยู่บนระเบียงตึกกับไฟ มิลลี่เห็นท่าไม่ดีเลยปีนบันไดเอาขนนกขึ้นไปให้ดัมโบ้บิน สุดท้ายระเบียงรับน้ำหนักลูกช้างไม่ได้อีกต่อไป ดัมโบ้ร่วงตกลงมา แต่ก่อนจะตกถึงพื้น ดัมโบ้ตั้งสติบินได้ต่อหน้าผู้คนจำนวนมากสำเร็จ
มีนักข่าวถ่ายภาพไว้ได้และเรื่องราวก็ไปถึงหูถึงตา วี.เอ. แวนเดเวอร์ เศรษฐีเจ้าของสวนสนุกยักษ์ใหญ่ Dreamland เขาเดินทางมาหาเมดิซี่หวังเพื่อจะขอซื้อดัมโบ้ไป แต่เมื่อเมดิซี่ไม่ยอมขาย แวนเดเวอร์จึงตัดสินใจซื้อตัวทั้งคณะและให้เมดิซี่เป็นหุ้นส่วนของดรีมแลนด์ เป็นรองผู้บริหารไปในทันที อนิเมะออนไลน์
Medici Brothers’ Circus’s ถูกย้ายมายังดรีมแลนด์ซึ่งยิ่งใหญ่ราวกับความฝันสมชื่อจริงๆ โฮสท์ได้ข้อเสนอว่าจะได้แสดงขี่ม้าอีกครั้งในฐานะฮีโร่สงครามแขนเดียว ถ้าเขากับลูกๆ ฝึกดัมโบ้ให้บินแสดงในเวทีของดรีมแลนด์ได้สำเร็จ โดยมีข้อแม้ว่าต้องมีโคเลตต์ นักแสดงกายกรรมสาวสวย แฟนของแวนเดเวอร์ ขี่บนหลังดัมโบ้ไปด้วย
การฝึกเป็นไปอย่างราบรื่น ดัมโบ้บินเก่งมากขึ้นและประทับใจในความสามารถแสดงผาดโผนของโคเลตต์ จึงทำให้รู้สึกเชื่องกับเธอ จนวันแสดงจริง เมดิซี่ได้พบว่าโชว์รอบเปิดตัวดัมโบ้ที่นี่นั้นมีความหมายมาก เพราะแวนเดเวอร์ต้องการทำให้ เจ. กริฟฟิน นักลงทุนจากธนาคาร เกิดความประทับใจและยอมให้เงินลงทุนก้อนใหญ่อีกก้อนแก่ดรีมแลนด์
ก่อนดัมโบ้ขึ้นแสดงก็มีโชว์อื่นๆ เกริ่นนำก่อน ตอนนี้นี่เอง ที่ฉากภาพหลอนช้างสีชมพูถูกนำมาตีความใหม่ กลายเป็นฟองสบู่ยักษ์ที่นักแสดงปล่อยลอยขึ้นไปบนอากาศ และมีดัมโบ้ตัวเดียวที่เห็นเป็นช้างเต้น แต่ก็ยังมีกลิ่นอายของความประหลาดอยู่ดี
เมื่อต้องแสดง ดัมโบ้ยืนอยู่บนที่สูงกับโคเลตต์ ทั้งคู่พบว่าแวนเดเวอร์สั่งให้เอาตาข่ายรองรับข้างล่างออก ดัมโบ้เกิดความลังเลและทำให้โคเลตต์ตกลงมา โชคยังดีที่โฮลต์ช่วยไว้ได้ ขณะที่ดัมโบ้ตะเกียกตะกายพยายามเกาะลิฟต์เอาไว้ ดัมโบ้ได้ยินเสียงแม่จากที่ไหนสักแห่งในดรีมแลนด์ ดัมโบ้จึงปล่อยตัวตกลงมาและบินขึ้น คนดูประทับใจได้ยังไม่เท่าไหร่ดัมโบ้ก็หาประตูทางออกเจอ บินออกไปข้างนอกและตามเสียงไปจนเจอจัมโบ้ แม่ของเขา ถูกขังอยู่ในกรงอีกโซนหนึ่ง
โฮสต์และลูกๆ ตามมาถึงตัวและพบว่าช้างตัวในกรงคือจัมโบ้จริงๆ (บังเอิ๊ญ บังเอิญ) แต่แวนเดเวอร์ไม่ซึ้งด้วย สั่งจับแยกทันที เมดิซี่เองก็ตัดสินใจเงียบไม่กล้าออกความเห็นอะไร โฮสท์ ลูกๆ และโคเลตต์พยายามอธิบายให้แวนเดเวอร์เข้าใจ ให้แวนเดเวอร์ยอมให้แม่ลูกอยู่ด้วยกัน แต่แวนเดเวอร์โหดแบบไม่มีเหตุผล แค่อยากให้ทั้งสองตัวแยกกันอยู่ เลยตัดสินใจสั่งย้ายจัมโบ้ออกจากดรีมแลนด์ไปฆ่าทิ้งซะ แม้ลูกน้องคนหนึ่งจะท้วงถาม แต่แวนเดเวอร์ก็ยังยืนยันให้ฆ่าทิ้ง
เช้าวันต่อมา เมดิซี่ได้รับเอกสารชุดหนึ่งจากแวนเดเวอร์ เป็นเอกสารจ่ายเงินชดเชยลูกคณะ Medici Brothers’ Circus’s เพราะเขาตัดสินใจไล่ออกเกือบทั้งหมด (ที่ไม่ใช่ตัวละครเด่นๆ) เพื่อประหยัดงบ เมดิซี่จำใจต้องไปบอกข่าวร้ายแก่ลูกคณะ ทุกคนจึงไปรวมตัวกันในโรงเลี้ยงดัมโบ้เพื่อบอกลาเจ้าตัวน้อยครั้งสุดท้าย ส่วนตัวดัมโบ้เองก็กำลังซึมเศร้าที่ต้องลาจากกับแม่อีกครั้ง
จู่ๆ ลูกน้องแวนเดเวอร์คนที่ไม่เห็นด้วยก็โผล่มาบอกความจริงทั้งหมด ว่าจัมโบ้จะถูกฆ่าทิ้ง โฮสท์ทนไม่ไหวตัดสินใจรวมพลเปิดแผนช่วยเหลือจัมโบ้และดัมโบ้ให้พ้นจากดรีมแลนด์ ให้เป็นอิสระจากชีวิตละครสัตว์
และแล้ววันลงมือก็มาถึง คืนที่แวนเดเวอร์ได้โอกาสแก้ตัวสร้างความประทับใจให้แก่กริฟฟินอีกครั้ง ทุกอย่างดำเนินไปเหมือนกับวันก่อน โคเลตต์กับดัมโบ้ขึ้นไปเตรียมตัวบินอยู่บนลิฟต์ ขณะเดียวกันนั้นเอง ลูกน้องคณะเมดิซี่ได้เริ่มปฏิบัติการช่วยเหลือจัมโบ้ ทุกคนร่วมมือร่วมใจกันหลอกล่อการ์ดในโซนนั้นทุกคน จนในที่สุดสามารถขโมยรถบรรทุกที่จัมโบ้อยู่ขับออกไปได้
ลูกน้องคนสนิทรีบวิ่งมาฟ้องแวนเดเวอร์ แผนแตกเรียบร้อย ฝั่งแวนเดเวอร์รู้กันแล้วว่าลูกน้องเมดิซี่เป็นคนลงมือ ตัวเมดิซี่เองที่อยู่ตรงนั้นจึงโดนเพ่งเล็งไปด้วย แวนเดเวอร์เห็นไม่ได้การ สั่งปิดทุกทางเข้าออกและสั่งล่าโฮสท์กับลูกๆ ทันที ในใจเมดิซี่จึงต้องคิดแล้วว่าจะเลือกธุรกิจหรือลูกน้องร่วมคณะที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา
ทางด้านโฮสท์เองก็เริ่มลงมือตามหน้าที่ของเขา นั่นคือไต่เสาปีนเต็นท์ขึ้นไปกรีดผ้าใบให้ดัมโบ้กับโคเลตต์บินออกมา แต่ปีนได้ไม่เท่าไหร่ก็โดนการ์ดแถวนั้นจับได้ แขนก็มีข้างเดียว โฮสท์ไม่รู้จะตอบโต้ยังไง ทันใดนั้นเมดิซี่เดินออกมาช่วย โกหกว่าโฮสท์เป็นช่างไฟมาซ่อมไฟแล้วไล่ยามไป โฮสท์ และ เมดิซี่พยักหน้าตอบรับกันก่อนที่โฮสท์จะปีนขึ้นต่อไป
กลับไปด้านใน โจกับมิลลี่เห็นลูกน้องคนสนิทแวนเดเวอร์มาตามล่าจึงวิ่งหนี แต่ก็หนีไม่พ้น พร้อมๆ กับที่ดัมโบ้ และ โคเลตต์เริ่มบินกันพอดี คนดูต่างพากันปรบมือชอบใจ หารู้ไม่ว่าช้างจะหายไปอีกรอบแล้ว เพราะโฮสท์ทำสำเร็จ เขาปีนขึ้นไปเกือบบนสุดได้ และกรีดผ้าใบเป็นช่องรอไว้แล้ว พอโคเลตต์เห็นช่องผ้าใบจึงส่งสัญญาณบอกดัมโบ้ ดัมโบ้ก็รีบบินโฉบลงไปช่วยเด็กๆ ทั้งสองแล้วบินขึ้นไปออกผ่านช่องนั้นทันที ดูอนิเมะ
โคเลตต์กับดัมโบ้พากันบินไปที่หอควบคุมสวนสนุกเพื่อเปิดประตูหลักของดรีมแลนด์ เปิดทางให้ฝั่งลูกคณะขับรถพาจัมโบ้ออกไปได้ แต่ด้วยความซนของดัมโบ้ เห็นโคเลตต์สับคันโยกแล้วอยากสับบ้าง น้องก็สับใหญ่เลย น้องเล่นทุกอย่างตั้งแต่ระบบเครื่องเล่นไปจนถึงระบบไฟฟ้าหลัก สุดท้ายไฟไหม้ สร้างความชิบหายวายป่วนไปทั้งสวนสนุก ขณะเดียวกันมนุษย์ที่อยู่ตรงนั้น 3 ชีวิต ไม่มีใครห้ามดัมโบ้เลย การ์ดสองคนยืนมองเป็นไอ้งั่ง ส่วนโคเลตต์ก็ยิ้มชอบใจ
แวนเดเวอร์ตามขึ้นมาบนหอคอยแต่ไม่ทัน โคเลตต์เยาะเย้ยเขาก่อนจะขี่หลังดัมโบ้บินหนีไปยังจุดนัดพบกับทีมลูกคณะ ตัดกลับมาที่ฝั่งเด็กๆ หลังดัมโบ้ช่วยไว้ทั้งคู่ก็พากันวิ่งหนีลูกน้องแวนเดเวอร์ไปมา โฮสท์ที่กลับไปตามหาในโรงเลี้ยงสัตว์ไม่เจอจึงปล่อยม้าทุกตัวหนีไป แล้วขี่ตัวนึงออกตามหาจนเจอลูกๆ จนมุมอยู่ในเต็นท์แสดงที่กำลังไฟไหม้ คนเป็นพ่อไม่รอช้าใช้ความสามารถนักแสดงเก่าโยนเชือกพันขาลูกน้องแวนเดเวอร์ผูกติดไปกับม้าให้วิ่งออกไปทันที ตอนนี้กลายเป็นว่าตัวร้ายกับม้ารอด แต่สามพ่อลูกติดไฟอยู่ข้างในแทน ดูอนิเมะออนไลน์
ฝั่งดัมโบ้เห็นว่าสามคนนั้นยังไม่หนีออกมา ดัมโบ้ที่อยู่กับแม่เลยตัดสินใจบินกลับไปช่วย โฉบสูดน้ำเข้าไปดับไฟให้ทั้งสามหนีออกมา พอออกมาด้านหน้าได้ ลูกน้องแวนเดเวอร์ยังไม่ลดละ ทั้งๆ ที่คนอื่นวิ่งหนีตายจากไฟไหม้กันหมด โฮสท์เห็นท่าไม่ดี ดัมโบ้แบกสามคนไม่ไหวแน่ จึงบอกให้โจกับมิลลี่ขี่ดัมโบ้หนีไป ส่วนตัวเองจะขี่ม้าตามไปทีหลัง แต่ทว่าตอนนี้เด็กๆ ไม่มีขนนกอยู่กับตัวแล้ว ดัมโบ้เลยไม่ยอมบิน
มิลลี่พยายามพูดปลุกใจดัมโบ้ ว่าขนนกไม่ใช่สิ่งจำเป็นในการบิน ดัมโบ้กล้าหาญกว่านั้น ก็เหมือนกับกุญแจของต่างหน้าแม่ที่เธอห้อยอยู่ซึ่งตอนนี้เธอไม่ต้องการแล้ว พร้อมกับเขวี้ยงเข้ากองไฟโชว์ให้ดัมโบ้ดู ด้วยความประทับใจหรืออะไรไม่ทราบดัมโบ้ยอมบินโดยไม่มีขนนกเป็นครั้งแรก รีวิวการ์ตูน
ที่ด้านหน้าดรีมแลนด์ โฮสท์ขี่ม้ามาเยาะเย้ยแวนเดเวอร์แล้วหนีไป พร้อมกับเมดิซี่ที่ปรากฏตัวออกมาสมทบเยาะเย้ยอีกคน ก่อนที่จะกอดคอกริฟฟินซึ่งไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้เดินออกไป แวนเดเวอร์ได้แต่ยืนมองดรีมแลนด์ของตัวเองที่สร้างมากับมือมอดไหม้ไปตรงหน้า ตัวคนเดียว หมดสิ้นทุกอย่าง
ที่ท่าเรือ ทุกคนกำลังร่ำลาจัมโบ้ และ ดัมโบ้ ส่งทั้งสองตัวขึ้นเรือเพื่อกลับสู่ธรรมชาติ ลูกคณะทุกคน โคเลตต์ โฮสท์ โจ และ มิลลี่บอกลาดัมโบ้เป็นครั้งสุดท้าย ยืนมองดัมโบ้เดินขึ้นเรือ ดัมโบ้เองก็มีทีท่าลังเลอาลัยอาวรณ์ พยายามเหลียวมองเล็กน้อยก่อนตัดใจเดินหายไปในเรือ หนังยังไม่ทันได้บิ้วอะไรทั้งสิ้น แล้วภาพก็ตัดไปฉากจบดื้อๆ