รีวิว Lightyear
เป็นการ์ตูนญี่ปุ่น ที่เขียนขึ้นมาโดยอาจารย์โอคุโบะ อัทสึชิ เล่าถึงชีวิตของเด็กนักเรียนในโรงเรียนชิบุเซ็นที่มียมทูตเป็นอาจารย์ใหญ่ โดยเป้าหมายคือการกินวิญญาณคิชิน 99 ดวง และ วิญญาณแม่มด 1 ดวง เพื่อที่จะได้กลายเป็นอาวุธของยมทูต และ หากกินดวงวิญญาณผิด จะต้องเริ่มเก็บใหม่ตั้งแต่ต้น
เนื้อเรื่อง รีวิว Lightyear
เป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นที่สามารถนำเสนอประเด็นเรื่องของชีวิต และ วิญญาณได้ลึกกว่าที่คาดเดาไว้มากๆ แม้ภาพยนตร์เรื่องนี้จะกล่าวถึงสิ่งที่เป็นนามธรรมค่อนข้างมาก จนทำให้แฟนการ์ตูนดิสนีย์บางท่านอดใจที่จะนำไปเปรียบเทียบ กับ อนิเมชั่นชื่อดังอย่าง Inside Out ไม่ได้ ซึ่งทั้งสองเรื่องต่างก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันในตัวเอง จุดดีของ Soul คือภาพยนตร์เรื่องนี้มีข้อคิดแทรกในหนังทำให้เพิ่มพลังบวก กับ ชีวิตได้เยอะมาก แต่บางช่วงของภาพยนตร์การแก้ปัญหาของตัวละครก็อาจจะง่ายเกินไป จนบาง อนิเมะ
เรื่องย่อ รีวิว Lightyear
ทีก็อดคิดไม่ได้ว่าเราแก้ไขมันไปเพื่ออะไร แต่โดยรวม Soul (2020) อัศจรรย์วิญญาณอลเวง ก็ยังเป็นผลงานเป็นผลงานอนิเมชั่นอีกเรื่องที่แนะนำให้ติดตามเป็นอย่างมาก เนื่องจากสิ่งที่ภาพยนตร์ต้องการจะสื่อให้ผู้ชมได้เก็บไปคิดนั้นมีประโยชน์เป็นอย่างมาก และ ในหลายๆ ฉาก และ หลายประโยคที่ตัวละครได้พูดในภาพยนตร์ก็ทำให้เราฉุกคิดถึงการใช้ชีวิตของเราอีกด้วยผู้เขียนอ่าน soul eater ตั้งแต่สมัยยังเด็กแล้ว เคยเช่ามาอ่านที่บ้านญาติสมัยตอนยังเป็นเด็กๆด้วย ในตอนนั้นคือเนื้อหาสนุก
มาก แต่พอย้อนความจำกลับจำเนื้อเรื่องจริงๆไม่ค่อยได้แล้ว แต่การ์ตูนสนุกมากๆ จากที่ต้องการจะเป็นอาวุธของยมทูต ก็กลายเป็นการ์ตูน ช่วยเหลือพวกพ้อง ปกป้องโลกจากพวกแม่มด และ วิญญาณชั่วร้าย การ์ตูนเรื่องนี้จึงแอบให้ฟีลหนังสือแฮร์รี่ พอตเตอร์ ในการทำลายฮอว์ครักซ์ ชิ้นส่วนวิญญาณชั่วร้ายที่สร้างความปั่นป่วนของลอร์ดโวลเดอร์มอร์ไป แค่เปลี่ยนจากศาสตร์แห่งความมืดเป็นแม่มด และ ชิ้นส่วนพลังวิญญาณที่โดนเวทย์มนต์สะกดของแม่มด
SOUL เป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดมากของดิสนีย์ที่นำแอนิเมชันของ Pixar อย่าง ลงสตรีมทาง Disney+ ทั้งที่เป็นโปรแกรมหนังที่หวังด้านรายได้ได้เลยแต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID 19 ที่ยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้นการตัดสินใจดังกล่าวก็ถือว่าพอเข้าใจได้แต่กระนั้นสำหรับเมืองไทยหนังยังได้สิทธิ์ฉายโรงอยู่แต่การโปรโมตก็นับว่าน้อยมากจนกลัวหลาย ๆ คนไม่ได้ดู ผมจึงขออนุญาตป่าวประกาศความดีงามของหนังในรีวิวฉบับนี้แบบไม่มีกั๊กเลยแล้วกันนะครับ
โจ (เจมี ฟ็อกซ์) ครูสอนดนตรีต็อกต๋อยผู้รักดนตรีแจ๊สเป็นชีวิตจิตใจ และใ นวันหนึ่งที่เขาได้เข้าใกล้ความฝันด้วยการได้รับเลือกให้เป็นมือเปียโนประจำวงแจ๊สชื่อดังทว่าด้วยความโชคร้ายเขากลับประสบอุบัติเหตุไปก่อนเวลาอันควร จนวิญญาณของเขาได้ระเห็จไปยังหนทางสู่ปรโลกแต่เขาก็สามารถหนีโชคชะตามาได้แต่ดันไปโผล่ในดินแดนก่อนโลก และ ถูกเข้าใจผิดว่าเป็นวิญญาณพี่เลี้ยงจนได้จับคู่ กับ หมายเลข 22 (ทีนา เฟย์) ดวงวิญญาณอนุบาลที่ไม่อยากไปเกิดเป็นมนุษย์ ทั้งสองจึงทำข้อตกลงกันว่าหากโจสามารถทำให้หมายเลข 22 หาเป้าหมาย และ ได้สิทธิ์ไปเกิดบนโลกโจจะได้รับสิทธิ์กลับสู่ร่างตัวเอง แล้วการผจญภัยของทั้งสองก็เริ่มขึ้น อนิเมะออนไลน์
หนังอนิเมชันส่งท้ายปีส่งตรงจาก Pixar กับ เรื่อง Soul หรือชื่อไทยว่าอัศจรรย์วิญญาณอลเวง บอกเล่าเรื่องราวของ Joe ชายวัยกลางคนผู้มีความฝันอยากเป็นนักดนตรีแจ๊สมาโดยตลอด แต่ความจริงเขาก็เป็นเพียงครูประถมสอนดนตรีทั้งนั้น แต่โชคชะตาก็ให้โอกาสเขาได้ไปร่วมวงดนตรีแจ๊สชื่อดัง แต่โชคชะตาก็เล่นตลก กับ เขาอีกครั้ง เมื่อเขาดันพลาดตกท่อทำให้เขาโคม่าวิญญาณออกจากร่างไปสู่ภพภูมิสุดอัศจรรย์ ที่จะพาไปรู้จัก กับ คำว่า ชีวิต
ท้ายปีคงไม่มีหนังเรื่องไหนที่จะเยียวยาจิตใจ และ ส่งมอบความสุขได้เท่าเรื่องนี้แล้วแหละ เป็นการฮีลเรื่องร้ายๆ ที่ผ่านมาทั้งปีจริงๆ อาจจะช่วยไม่ได้ไปตลอดหรอก แต่มันเป็นช่วงเวลา 1 ชั่วโมง 40 นาทีที่คุ้มค่าจริงๆ
ถือว่าเป็นหนัง Pixar ที่มีความเป็นผู้ใหญ่พอตัวเลยแหละ ประเด็นในเรื่องต่างๆ มันเป็นประเด็นจริงจัง กับ การตามหาความหมายของการมีชีวิต แต่หนังก็ยังไม่ลืมที่จะใส่ความเฮฮาและ ความน่ารักเอาไว้เฉกเช่นเดิม ที่สำคัญยังคงทัชใจคนดูได้เช่นกัน
ตัวบทถือว่าทำออกมาได้ในระดับโอเค มันมีบางส่วนยังคงไม่สมเหตุสมผล เกิดการตั้งคำถามอยู่บ้าง ทิ้งค้างคาไว้บ้าง (เรื่องนักเรียน, เรื่องเพื่อน, เรื่องแม่) คือถ้าตอนท้ายเอาเรื่องราวเหล่านั้นมาเป็นภาพเล่านิดๆ หน่อยๆ มันจะลงตัวมากเลย และหลายๆ ครั้งมันก็ราบรื่นเกินไป หาทางลงง่ายเกินไป และ ดูรีบๆ ไปเสียหน่อย แต่ในภาพรวมมันก็ยังน่าติดตาม และ พาคนดูไปเอ็นจอย กับ มันได้ไม่ยาก เพราะมันยังคงสนุก ดูง่าย ดูอนิเมะ
งานด้านภาพนี่เรียกได้ว่างดงามสุดๆ ทั้งในพาร์ทของวิญญาณที่สร้างสรรค์ อาจดูเป็นตัวละครง่ายๆ เป็นมิตร และ สบายตาสุดๆ แต่ มันเต็มไปด้วยรายละเอียดงดงามเล็กๆ ไม่ว่าจะเป็นสีสัน หรือแบบเหมือนกาแล็กซี่ไหลๆ ไปที่เส้น อธิบายไม่ถูก 5555 ส่วนในพาร์ทของคนท่ามกลางเมืองใหญ่นี่ก็สวยแบบไร้ที่ติจริงๆ
ชอบความที่หนังค่อยๆ พยายามให้เรารับรู้ เรียนรู้ และ สอนเราถึงสิ่งที่หนังต้องการจะสื่อ โดยไม่ต้องให้เหล่าตัวละครมาพูดคำคมหรือยัดเยียดให้เราคล้อยตาม แต่ หนังดำเนินมาเรื่อยๆ เรียบง่าย ค่อยเป็นค่อยไป จนมาถึงตอนท้ายเราคล้อยตามและ เห็นด้วย กับ บทสรุปของหนังอย่างไม่รู้ตัว
ลองหยุดพัก ลองใช้เวลาช้าๆ มองไปรอบๆ เอ็นจอย กับ สิ่งเหล่านั้น มันมีความสุขอยู่ทุกมุมมองนั่นแหละ หากถามว่าชีวิตคืออะไร มีชีวิตเพื่ออะไร…มันคือการได้ใช้ชีวิตนี่แหละโดยรวมการ์ตูนสนุกดี มีฉากต่อสู้ที่เร้าใจ มีฉากตื่นเต้นว่าจะช่วยเหลือเพื่อนได้สำเร็จหรือเปล่า และ ตัวเอกจะสามารถเอาชนะด้านมืดในจิตใจที่กัดกิน และ หาทางขโมยพลังวิญญาณของเขาได้มั้ย การ์ตูนเรื่อง soul eater จึงเป็นการ์ตูนที่มีเนื้อหาออกทะเลอีกเรื่องหนึ่งที่น่าซื้อมาสะสม เพราะแม้จะออกทะเล แต่ soul eater ก็สนุกดี แถมมีลายเส้นตัวการ์ตูนที่สวย และ มีเอกลักษณ์ที่สามารถจดจำได้อีกด้วย
Alert พูดถึงหนัง นิดนึงคือ ในหนัง soul ทำให้เราคิดได้ว่า เรามีภาพจำของสวรรค์ ว่าเป็นที่ที่มีความสุข อะไรก็ดีไปหมด ทำไมนรกถึงดูโหดร้ายมีการทำโทษ มันทำให้เราเปลี่ยนมุมมองของนรกไป ในหนังใช้คำว่า นรกแบบรีแบรนด์ดิ้ง ซึ่งเป็นที่ที่ให้คำปรึกษา และ พัฒนาคนที่ทำตัวไม่ดีให้กลายเป็นวิณญาณที่ดีแล้วส่งกลับโลก เราว่าแบบนี้เป็นเรื่องที่งดงามมากอะเราชอบ ดูอนิเมะออนไลน์
แต่ ประเด็นที่ผมจะพูดถึงในวันนี้อาจจะเป็นข้อสังเกตเล็ก ๆ จากหนังที่ผมจะไม่พูดถึงหนังโดยตรงเพราะอยากให้ทุกคนไปดู ผมจะพูดถึงเรื่องของ “การเข้ามาของใครบางคน อาจจะทำให้เรารู้ว่าความงดงามของชีวิตคืออะไรการเข้ามาของใครบางคน มันคือบทเรียนในชีวิตเหมือนกันนะครับ โดยที่ผมเชื่อว่า soul เรื่องนี้สอนให้เห็นเรื่องของการตัดสินคนอยู่เบา ๆ เหมือนกัน
การเอาไม้บรรทัดของตัวเองไปวัดความสุขของคนอื่น คือในวันที่เรามองโลกว่าโหดร้าย แย่ และ เราไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อบนโลก การเข้ามาของคนที่ดี คนที่หลงรักชีวิตของตัวเองทำให้เราเห็นมุมมองที่ต่างออกไปจากการพูดคุย กับ คนแบบนี้ เพราะเขาอาจจะมองมุมมองที่เขามีต่อโลก และ ส่งต่อทัศนคติดี ๆ มาให้เรา รีวิวการ์ตูน
เราอาจจะเคยคิดว่า ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ ความฝันของเราคือเหตุผลของการมีชีวิต แต่ ผมหลังดูหนัง Soul เรื่องนี้จบกลับรู้สึกว่า เป้าหมาย และ ความฝันจริง ๆ เป็นแค่แรงจูงใจของการมีชีวิตเท่านั้นครับ แต่ เหตุผลที่ทำให้มีชีวิตอยู่ หรือความงดงามของการมีชีวิตหรือ Meaning of life จริง ๆ คือระหว่างทางที่จะไปถึงมัน ในวันที่เราพลาดในวันที่เราสุข นั้นแหละคือสิ่งที่เราทำให้ชีวิตของเรามีความหมายจริง ๆ