101 dalmatians รีวิวการ์ตูน
‘คนนิสัยเช่นไร สัตว์เลี้ยงย่อมมีรูปลักษณะเช่นนั้น’ แดลเมเชียน เป็นสุนัขสายพันธุ์ประหลาด ตอนเกิดมีผิวพันธุ์ขาวผ่อง แต่เมื่อเติบโตจุดด่างดำจะปรากฎเด่นชัดขึ้น ความดีชั่วของมนุษย์ก็เช่นกัน
แต่ การ์ตูนดิสนีย์ เรื่องนี้ไม่ได้นำแนวคิดที่เกริ่นมาไปใช้เลยนะครับ มีเพียงแค่ฉากตอนต้นที่ผมประทับใจมากๆกับการเปรียบเทียบ มนุษย์=สัตว์เลี้ยง แต่เรื่องราวค่อยๆแปรสภาพเหลือเพียงการผจญภัย เพื่อช่วยเหลือลูกสุนัขแดลเมเชียนทั้งหมด 99 ตัว จากนางปีศาจผมสองสี Cruella De Vil ผู้กลายเป็นตำนานตัวร้ายแห่งวงการภาพยนตร์
เรื่องย่อ 101 dalmatians
‘พองโก้’ สุนัขพันธุ์ดัลเมเชียนเพศผู้ เขาอาศัยอยู่ในห้องเช่าเล็กๆแสนสงบแห่งหนึ่งใกล้สวนสาธารณะกับเจ้านายหรือที่พองโก้และบรรดาสัตว์เลี้ยงตัวอื่นๆเรียกว่า ‘สัตว์เลี้ยง’ เขามีชื่อว่า ‘โรเจอร์’ ทั้งโรเจอร์และพองโก้ใช้ชีวิตจืดชืดตามประสาชายโสดไปวันๆ จนวันหนึ่งพองโก้เห็นสุนัขตัวเมียพันธุ์ดัลเมเชียนและหญิงสาวแสนสวยผ่านทางหน้าต่าง จึงตัดสินใจจับคู่พวกเธอให้ตัวเองและโรเจอร์ ตั้งแต่นั้นมาพองโก้และโรเจอร์ก็มีครอบครัวสุขสันต์ พองโก้ครองคู่กับ ‘เพอร์ดิต้า’ จนมีลูกถึง 15 ตัว แต่ว่าหนึ่งเรื่องร้ายก็เกิดขึ้น เมื่อ ‘ครูเอล่า เดวิล’ เพื่อนสนิทของภรรยาโรเจอร์ผู้คลั่งไคล้หนังสุนัขพันธุ์ดัลเมเชียน ได้ลักพาตัวลูกสุนัขทั้ง 15 ตัวไป รวมกับลูกสุนัขที่เธอเคยขโมยมาจากที่ต่างๆอีก 84 ตัว เพื่อนำไปทำเป็นชุดขนสัตว์แฟชั่น การผจญภัยของพองโก้ เพอร์ดิต้าและลูกสุนัขอีก 99 ตัว จึงเริ่มขึ้น เว็บดูอนิเมะ,ดูอนิเมะ
101 dalmatians ต้นฉบับวรรณกรรมเยาวชน
The Hundred and One Dalmatians (1956) หรือ The Great Dog Robbery ต้นฉบับคือวรรณกรรมเยาวชนแต่งโดย Dodie Smith (1896 – 1990) นักแสดงหญิง ผันมาเขียนบทละครเวที และนิยายเด็กสัญชาติอังกฤษ เธอได้แรงบันดาลใจจากเพื่อนคนหนึ่งพูดว่า
Smith เป็นคนรักสัตว์ ที่บ้านเลี้ยงสุนัขพันธุ์แดลเมเชียน ครั้งหนึ่งคลอดออกมา 15 ตัว ใครจะไปเลี้ยวไหว! ก็ขายบ้าง แบ่งฟรีให้เพื่อนช่วยเลี้ยงบ้าง เหลือขณะเริ่มเขียนนิยายเล่มนี้ 9 ตัว หนึ่งในนั้นชื่อ Pongo คงจะเป็นตัวโปรดของเธอเลยละ
เมื่อนาย Walt Disney มีโอกาสอ่านนิยายเรื่องนี้ รีบติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ตั้งแต่ปี 1957 (Smith ยินดีมอบให้ เพราะเธอก็แอบหวังว่า Disney จะสนใจ) มอบหมายให้ Bill Peet ดัดแปลงบทภาพยนตร์ ถือเป็นครั้งแรกของสตูดิโอที่ไม่ได้ใช้การระดมสมองในการพัฒนาบท แค่บทร่างแรกก็ถูกใจมากๆ เลยให้วาด Storyboard และออกแบบภาพร่างตัวละครต่อเลย 101 dalmatians 2 พากย์ไทย
สาเหตุที่เป็นเช่นนั้น ส่วนหนึ่งคงเพราะความล้มเหลวไม่ทำเงินของ Sleeping Beauty (1959) สร้างความเสียหายอย่างหนักให้สตูดิโอ Disney ถึงขนาดมีการพูดคุยปิดแผนกอนิเมชั่น (แล้วหันไปมุ่งเน้นสร้างภาพยนตร์คนแสดง และกิจการสวนสนุก Disneyland) แต่นาย Walt Disney ยังคงยืนกรานให้ไปต่อ แค่ว่าผลงานลำดับถัดไปต้องหั่นงบประมาณลงครึ่งต่อครึ่ง
101 dalmatians รีวิวการ์ตูน
สำหรับนักพากย์ เป็นความจงใจให้เสียงของสุนัขมีความคมเข้ม ลุ่มลึก ฟังดูพึ่่งพาได้มากกว่ามนุษย์ ในบท Pongo เลือกนักจัดรายการวิทยุสัญชาติออสเตรเลียน Rod Taylor ที่กำลังจะมีผลงานดังอย่าง The Time Machine (1960), The Birds (1963) ฯ, ลักษณะเด่นของ Pongo คือหูดำทั้งสองข้าง และสวมปลอกคอสีแดง มันจะชอบเชิดหน้าอย่างยิ่งยโสโอหัง บางครั้งก็จะมีดวงตาสุดแสนขี้เกียจ แต่เมื่อชีวิตมีเป้าหมายก็จะแน่วแน่ในสิ่งที่ตนอยากทำ
ต้นฉบับในหนังสือ คู่รักของ Pongo ไม่มีชื่อเรียกว่า Missis Pongo ขณะที่ Perdit คือชื่อแม่สุนัขอีกตัวที่ลูกๆของตนถูกขายให้กับ Cruella De Vil แต่เพื่อความรวบรัดตัดทอนเรื่องราวบางส่วนออก ผนวกสองตัวละครให้เหลือเพียงสุนัขเพศเมียชื่อ Perdit แต่งงานกับ Pongo, ลักษณะเด่นของ Perdit เหมือนจะมีแค่ปลอกคอสีน้ำเงิน และบางช็อตขณะ Close-Up จะเห็นขนตา
การดำเนินเรื่อง
กลายเป็นเรื่องราวของ 101 dalmatians เต็มเรื่อง เปิดเรื่องเราจะพบการเล่นกับจุดด่างสีดำบนพื้นหลังสีขาว ทำให้เครดิตต้นเรื่องมีความน่าสนใจ จนคนดูไม่อยากกดข้าม รู้ตัวอีกทีก็หมดเครดิตเปิดเรื่องแล้ว และถึงแม้ว่าภาพในเรื่องจะเก่าก็ไม่เป็นอุปสรรค ในการดู ผู้เขียนมองว่าเป็นเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของการ์ตูนดิสนีย์สมัยก่อนด้วยซ้ำ เพราะสมัยนั้นวาดมือล้วนๆ เราจะเห็นเส้นดินสอร่างบนตัวละครและในบางฉากเป็นพักๆ ส่วนการลงสีฉากจะฟุ้งๆเหมือนสีน้ำ ในส่วนของการเคลื่อนไหวตัวละครนั้น บอกเลยว่าไม่เสียชื่อค่ายดิสนีย์ ลื่นไหล สมูท ดูสนุก ตัวละครจะมีการเล่นสีที่น่าจดจำ อย่างเจ้าของสุนัขในเรื่องส่วนใหญ่จะใช้สีพาสเทลสดใสสื่อถึงความใจดีอ่อนโยนและตัวร้ายของเรื่องอย่างครูเอล่าก็มีการออกแบบที่ดูเก๋ไก่ น่าจดจำจนถึงขั้นถูกนำมาสร้างต่อเป็นภาพยนตร์ในปัจจุบัน และสิ่งที่เราจะเห็นตลอดทั้งเรื่อง คือ ความน่ารักของเหล่าสุนัขพันธุ์ดัลเมเชียน
101 dalmatians ซับไทย มีการสอดแทรกจินตนาการของผู้สร้างอยู่เยอะ อย่างการที่สุนัขคิดว่า มนุษย์เองก็เป็นสัตว์เลี้ยงของมันเหมือนกันและการเห่าหอนในตอนกลางคืนของสุนัข คือ การแจ้งข่าวขอความช่วยเหลือในวงกว้าง เหมือนกับการใช้วิทยุสื่อสารของมนุษย์ ในส่วนของจังหวะการเล่าเรื่องค่อนข้างรวดเร็วไม่ยืดเยื้อ มีมุขตลกขำขันให้ดูเป็นพักๆ ส่วนเพลงมีไม่มากเหมือนการ์ตูนดิสนี่ย์เรื่องอื่นและไม่ติดหูเท่าไหร่ อย่างไรก็ดี 101 Dalmatians ก็นับเป็นการ์ตูนสนุกๆอีกเรื่องที่ผู้เขียนอยากแนะนำให้ทุกคนได้ดู
101 dalmatians รีวิวการ์ตูน
สำหรับ Cruella De Vil ต้องการเสียงที่มีลักษณะเก๊ๆ ดัดจริตพูดสำเนียงอังกฤษ แต่ฟังรู้ว่ามาไม่ไกลจาก New York City, ตอนแรกนาย Walt Disney เล็งให้ Lisa Davis แต่หลังจากทดสอบอ่านบทไปสองสามครั้งเสนอว่าตัวเองเหมาะกับบท Anita มากกว่า (ประมาณว่าดัดจริตไม่ถึงขั้นนั้น) สุดท้ายมาลงเอยที่ Betty Lou Gerson นักพากย์ Radio Drama ก่อนหน้านี้เคยให้เสียงบรรยายนำอนิเมชั่นเรื่อง 101 dalmatians พากย์ไทย
ฉากการมาถึงของ Cruella De Vil กลิ่นอายหนังเงียบเรื่อง The Lodger (1927) ลอยมาตุๆ ไหนจะการออกแบบฉาก ประตู แสงเงา และพื้นหลังกรุง London สะท้อนถึงบางสิ่งชั่วร้ายเกี่ยวกับตัวละครนี้, ขณะที่รูปลักษณ์ทรงผมขาวครึ่งดำครึ่ง (ไม่ต่างอะไรจาก Two-Face) คนสองหน้ากลับกลอก เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย เอาแน่เอานอนไม่ได้ สวมเสื้อคลุมหลวมใหญ่ แต่ภายในชุดเดรสสีดำ ถุงมือรองเท้าสีแดง ราวกับคนที่มือเท้าเปื้อนเลือดมาชอบกล
เหตุผลหนึ่งที่ 101 Dalmatians สามารถสร้างเสร็จในงบประมาณที่ถูกตัดทอนลง สืบเนื่องจากการมาถึงของเทคโนโลยีเครื่องถ่ายเอกสาร (Xerox) ที่สามารถนำภาพวาดจากกระดาษลงแผ่น Cels ทำอนิเมชั่นได้โดยทันที ช่วยร่นระยะเวลาการวาดซ้ำ/ทำอนิเมชั่นลงได้ครึ่งต่อครึ่ง (โดยเฉพาะลูกสุนัขแดลเมเชียน ถึง 99 ตัว ออกแบบเสร็จก็เข้าเครื่องซีร็อกได้เลย) นี่ถือเป็นอุปกรณ์ปฏิวัติวงการอนิเมชั่นสองมิติเลยนะ!
แซว: จริงๆแล้วนาย Disney ไม่ค่อยพึงพอใจกับผลลัพท์จากการใช้เครื่องถ่ายเอกสารนี้สักเท่าไหร่ มองว่าทำให้อนิเมชั่นขาดองค์ประกอบของ ‘แฟนตาซี’ แต่ครานี้ยินยอมปล่อยไปเพราะต้องการตัดทอนงบประมาณทุนสร้าง
ฉากที่ฝูงสุนัขเดินผ่านท่ามกลางหิมะ ถ้าสังเกตกันดีๆจะพบว่าผิวของพวกมันไม่ใช่สีขาวแต่อมเทาอ่อนๆ เพราะถ้าระบายขาวไปเลยจะกลมกลืนกับพื้นหลังจนแยกไม่ออก