รีวิว bubble
ชื่อเรื่อง : Bubble (บับเบิ้ล)
ผู้กำกับ : Tetsurō Araki
แนว : ผจญภัย , แฟนตาซี , เอาชีวิตรอด
ความยาว : 1 ชั่วโมง 38 นาที
วันที่ฉาย : 28 เมษายน 2022
ระบบเสียง : พากย์ไทยและบรรยายไทย
ช่องทางการรับชม : Netflix การ์ตูนอนิเมะ
คะแนน : 6.5/10
เรื่องราว bubble
รีวิว bubble ภาพยนตร์อนิเมะจากญี่ปุ่นดูได้เพลินๆ ภาพสวย เพลงเพราะ บทความรีวิวนี้ ถูกเขียนขึ้นมาจากความรู้สึกส่วนตัวของผม หากผิดพลาดประการใด หรือไม่ถูกใจใครต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ แต่ก่อนจะมาเริ่มการรีวิวเรามาดูเรื่องย่อกันก่อนดีกว่า
เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นขึ้นเมื่อจู่ๆ เกิดมีฟองสบู่ประหลาดตกลงมาจากท้องฟ้ากลางกรุงโตเกียว จากนั้นฟองสบู่ปริศนาเหล่านี้ ก็ได้ทำให้แรงโน้มถ่วงของกรุงโตเกียวเปลี่ยนไป จนทำให้ผู้คนอาศัยอยู่ไม่ได้จนท้ายที่สุด กรุงโตเกียวก็ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก จากนั้นเวลาผ่านไป 5 ปี กรุงโตเกียวได้เปลี่ยนกลายเป็นสนามเด็กเล่นของเหล่าวัยรุ่นที่สูญเสียครอบครัวและไม่มีที่ไป ซึ่งเหล่าเด็กพวกนี้จะมีการแข่งขันฟรีรันนิ่งและพนันกัน ใครเป็นฝ่ายชนะก็จะได้ของไป ซึ่งของที่ใช้ในการเดิมพันจะเป็นอะไรก็ได้ ไม่ว่าของใช้ทั่วไปหรืออาหาร โดยในกรุงโตเกียวจะมีทีมนักวิ่งแบ่งออกเป็นหลายทีม แต่เรื่องราวจะติดตามเด็กชายที่ชื่อว่า ฮิบิกิ เด็กหนุ่มที่มีฝีมือการฟรีรันนิ่งดีที่สุดในเมืองโตเกียว เว็บดูอนิเมะ,ดูอนิเมะ
วันหนึ่งเขาเกิดพลัดตกลงไปในทะเลที่เกิดแรงโน้มถ่วงบิดโค้ง ก่อนที่สุดท้ายเขาจะได้รับการช่วยเหลือโดยเด็กหญิงปริศนา จากนั้น ฮิบิกิ ก็ได้พาเด็กสาวคนนี้กลับไปที่บ้าน เธอไม่มีชื่อ เขาจึงตั้งชื่อให้เธอว่า ยูตะ จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ยินเสียงประหลาด ซึ่งมีเพียงพวกเขาสองคนเท่านั้นที่ได้ยินเสียงนี้ จึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำทั้งคู่ต้องช่วยกันออกตามหาที่มาของเสียงประหลาดนี้ ซึ่งหารู้ไม่ว่าพวกเขากำลังจะเปลี่ยนแปลงโลกไปตลอดกาล Bubble บับเบิ้ล รับชมได้พร้อมพากย์ไทยทาง Netflix bubble ซับไทย
รีวิว bubble
มาเริ่มรีวิวกันเลยดีกว่า เริ่มที่อย่างแรกเรื่องบทและการดำเนินเรื่อง บทของอนิเมะเรื่องนี้น่าสนใจตรงที่นำเสนอโลกที่ล่มสลายควบคู่มากับกีฬาฟรีรันนิ่ง ซึ่งแปลกและเท่ดี และการที่โลกล่มสลายด้วยฟองสบู่ประหลาดก็น่าติดตามพอสมควร และสุดท้ายเมื่อเฉลยว่าเป็นเอเลี่ยน ก็ยังพอสมเหตุสมผลอยู่พอสมควร ในด้านการดำเนินเรื่อง ส่วนตัวผมรู้สึกว่าดำเนินเรื่องจืดชืดไปซักหน่อย เหมือนยังขาดเรื่องพล็อตหลักๆ ที่ทำให้คนดูอยากตาม รู้สึกว่าเล่าไปเรื่อยๆ ดูไปเรื่อยๆมากกว่า ไม่ได้น่าติดตามมากเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่ ถือว่าพอดูได้เพลินๆ
ต่อมาด้านงานภาพ ด้านนี้คงต้องคุยกันยาว ส่วนตัวผมว่าทำงานภาพออกมาได้สวยดีระดับนึง จะแบ่งเป็นฉากกับตัวละครแล้วกัน ในด้านงานฉากหลัง ลายเส้น แสงเงาต่างๆ ทำออกมาได้ดีมากๆแล้ว ผมชอบมาก สวยดี ส่วนลายเส้นของตัวละครก็ทำออกมาได้ดี แต่มันไปได้สุดและสวยได้มากกว่านี้ แต่เท่านี้ก็ดีมากๆแล้ว เอาง่ายๆ งานภาพของเรื่องนี้คือดีพอที่จะฉายโรงได้สบายๆเลย งานภาพสวยจริงๆ ใครที่ชอบอนิเมะภาพสวยๆ ห้ามพลาดจริงๆ ต่อมาด้านการเคลื่อนไหวตัวละคร เรื่องนี้ทำออกมาได้ดีเลย การขยับ การเคลื่อนไหวของตัวละครออกมาเลื่อนไหล ซึ่งพล็อคหลักคือเน้นไปที่กีฬาฟรีรันนิ่งอยู่แล้ว จึงไม่แปลกที่จะใส่ใจในเรื่องนี้
บทสรุป bubble
สุดท้ายขอพูดเรื่องงานพากย์เสียงภาษาไทยกันบ้าง ซึ่งปกติแล้วใครที่เคยดูงานพากย์ไทยของ Netflix ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ก็คงพอจะรู้กันว่าทีมพากย์ Netflix ยังพากย์ไม่เก่งเท่าไหร่ แต่นั่นคือก่อนหน้านี้ แต่ช่วงหลังๆมากนี้ งานพากย์อนิเมะของ Netflix ดีขึ้นมากๆ ส่วนเสียงพากย์ในหนังและซีรีส์ ก็ต้องลุ้นเอา เพราะบางเรื่องก็ดี บางเรื่องก็ไม่ดี แต่งานพากย์อนิเมะช่วงหลังเท่าที่ดูมา คือพากย์ดีหมดเลย ตั้งแต่เรื่อง Kotaro Lives Alone (โคทาโร่อยู่คนเดียว), Thermae Romae Novae (สู้ต่อไป ลูเชียส!! ประดิษฐกรรมใหม่) และเรื่องนี้ Bubble (บับเบิ้ล) 3 เรื่องที่ผมพูดมานี่งานพากย์ไทยดีมาก ให้ความรู้สึกเหมือนตอนดูการ์ตูนสมัยเด็ก คือคุณภาพเดียวกันเลย ดังนั้นใครที่ขี้เกียจอ่านซับ แนะนำให้ดูพากย์ไทยเลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน
เอาละมาสรุปและให้คะแนนกัน โดยรวมแล้วผมว่าภาพยนตร์อนิเมะเรื่องนี้ จัดอยู่ในระดับที่ดีใช้ได้ ไม่ได้แย่เลย ดูได้เพลินๆ สนุกดี ไม่รู้สึกเสียเวลาแน่นอน แม้ว่าบทและการดำเนินเรื่องอาจจะจืดไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงกับแย่ ยังพอน่าติดตามและดูไปได้จนจบ ส่วนงานภาพและการโปรดักชั่น ในจุดนี้ไร้ที่ติเลย ทำออกมาได้ดีมากๆ เพลงก็เพราะทุกเพลงจริงๆ ดูเป็นงานที่ตั้งใจทำและละเอียดพอสมควร เพราะภาพสวยทุกเฟรมจริงๆ ส่วนงานพากย์ไทยก็ตามที่บอกข้างต้น ดีงามไร้ที่ติเช่นกัน ท้ายสุดนี้ผมขอให้คะแนนภาพยนตร์เรื่อง Bubble บับเบิ้ล (2022) ไว้ที่ 6.5/10 คะแนน Bubble (2022)
จะเกิดอะไรขึ้น…ถ้าหากว่าโลกถูกจู่โจมจาก ‘ฟองสบู่’ ปริศนาที่ทำให้ทุกอย่างเลวร้ายไปหมด เป็นคอนเซ็ปต์ที่น่าสนใจและกลายมาเป็นหนังอนิเมะญี่ปุ่นเรื่องล่าสุดใน “Bubble” ที่มาพร้อมกับสีสันไอเดียพาเพลิน แม้ว่าพล็อตต่าง ๆ จะค่อนข้างสำเร็จรูปตามสูตร มีช่องโหว่มากมายเต็มไปหมด แต่ก็ยังสามารถขยายเรื่องราวออกมาได้อย่างจับใจและตระการตาไปตลอดทาง…
รีวิว bubble
Bubble เป็นเรื่องราวเกิดขึ้นโดยมีจุดเริ่มต้นจากเหตุการณ์หายนะที่ใจกลางกรุงโตเกียว เมื่อปรากฏการณ์ประหลาดที่มีลักษณะเป็นฟองสบู่ตกลงมาจากฟากฟ้าเหมือนสายฟ้าเข้าโจมตีเมืองใหญ่ ก่อนฟองเหล่านั้นจะแตะออกและครอบคลุมทั้งเมืองให้กลายเป็นพื้นที่ไร้แรงโน้มถ่วง นับตั้งแต่นั้นว่ากรุงโตเกียวถูกทิ้งร้าง และไม่ใช่เมืองหลวงของญี่ปุ่นอีกต่อ ฮิบิกิ เด็กหนุ่มบ้าบิ่นแต่มีพรสวรรค์ เขาบังเอิญได้ตกลงไปในหลุมบ่วงแรงโน้มถ่วง ก่อนที่จะได้พบกับ อุตะ เด็กสาวที่มีพลังลักลับมาช่วยชีวิตเขาเอาไว้ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการเชื่อมโยงพวกเขาเข้าเอาไว้ด้วยกันอย่างน่ามหัศจรรย์
นี่คือผลงานล่าสุดของผู้กำกับ “เทสึโระ อารากิ” (จาก Attack on Titan และ Kabaneri of the Iron Fortress) ที่นับได้ว่าปรับเปลี่ยนแนวเดิมของเขามาสู่แอนิเมชั่นแฟนตาซีเลิศล้ำด้วยจินตนาการเรื่องนี้ ที่ถือว่าเขาก็ยังคงคอนเซ็ปต์แนวถนัดของเขาเข้ามาใส่เป็นองค์ประกอบเสริมได้ช่วยส่งเสริมตัวหนังทั้งเรื่องได้เป็นอย่างดี หนังยังมาพร้อมกับไอเดียและแนวคิดที่ค่อนข้างตื่นตาตื่นใจ แม้ว่าจะยืนอยู่บนพื้นฐานของสูตรสำเร็จเดิม ๆ ตามแบบฉบับอนิเมะญี่ปุ่น
Bubble ได้นักเขียนบทอนิเมะมือดีอย่าง “เกน อูโระบูชิ” (จาก Psycho-Pass และ Kamen Rider Gaim) ที่ถือว่าขัดเกลาบทหนังออกมาได้ค่อนข้างน่าพอใจ โดยเฉพาะการหยิบเอาไว้ไอเดียโดดเด่นระหว่างวัฒนธรรมอนิเมะฉบับญี่ปุ่น มาผูกเข้ากับตำนานเทพนิยายคลาสสิกระดับสากล ที่เห็นได้ชัดจากในหนังเรื่องนี้เลยก็คือการหยิบยืมกลิ่นอายของ “The Little Mermaid” เข้ามาเป็นโครงสร้างคร่าว ๆ วางเป็นพื้นฐานการเล่าเรื่องของ Bubble ถือว่าสนุกชวนติดตามใช้ได้ เพราะหนังก็ดำเนินเรื่องไปตามสูตรสำเร็จอยู่แล้ว แม้ว่าจะซ้ำซากอยู่ในหลายจุด แต่หนังก็มอบอรรถรสที่น่าสนใจกับคนดูได้เป็นอย่างดี และเมื่อผนวกเข้ากับงานออกแบบและงานสร้างอนิเมะในหนังเรื่องนี้ กลายเป็นส่วนช่วยส่งเสริมกันและกันได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นสีสันและดีไซน์ที่ตระการตา งานค่อนข้างดีจนแอบเสียดายว่าหนังเรื่องนี้ควรจะมีโอกาสให้คนดูได้มีประสบการณ์ชมในโรงภาพยนตร์ด้วยซ้ำ Bubble ตอนที่ 1
จุดเด่นของเรื่อง bubble
รีวิวอนิเมะ bubble อีกจุดที่น่าค่อนข้างน่าพอใจในหนัง Bubble ก็คือการสร้างมิติและองค์ประกอบของคาแรกเตอร์ตัวละครหลักของเรื่องนี้ ที่ค่อนข้างถ่ายทอดออกมาได้แข็งแรงในระดับที่ดี ไม่ใช่แค่เพียงตัวละครหลัก อย่าง ฮิบิกี หรือ อุตะ เพียงเท่านั้น ตัวละครสมทบอื่น ๆ ที่อยู่ในหนังก็มีการเกลี่ยให้กับความสำคัญได้แทบจะทุกคาแรกเตอร์ดี และเป็นในฟังก์ชั่นเล็ก ๆ ที่ช่วยมาส่วนเสริมภาพรวมของหนัง
แม้ว่าพล็อตอะไรต่าง ๆ ของหนังเรื่องนี้จะค่อนข้างเพ้อฝันและแฟนตาซีไปสักหน่อย แต่ก็ถือว่าหนังวางรากฐานและปูทางเอาไว้ได้ค่อนข้างสมเหตุสมผล และเกมการแข่งขันที่นำมาใส่เอาไว้เป็นแกนเสริมให้กับหนังเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นองค์ประกอบที่เข้าใจเลือกและเป็นจุดที่ช่วยบิวท์ความสนุกให้กับ Bubble ได้ค่อนข้างกลมกล่อม มันจึงกลายเป็นการผสมผสานอะไรหลาย ๆ อย่างเข้าเอาไว้ด้วยกันในหนังเรื่องเดียว ที่ให้รสชาติและประสบการณ์ที่น่าพอใจ
โดยภาพรวมแล้ว Bubble ถือว่าเป็นหนังแอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นถือว่ายังทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน แม้ว่าความสดใหม่อะไรต่าง ๆ จะให้ได้ไม่เยอะนัก หนังยังมีอารมณ์ของหนังดัง ๆ แบบ Weathering with You หรือ Your Name. อะไรทำนองนั้นอยู่ แต่ด้วยความแข็งแรงในองค์ประกอบของคอนเทนท์ในหนังเรื่องนี้ ทำให้มีทิศทางในการเล่าเรื่องที่ชัดเจน และเล่าเรื่องไปได้ค่อนข้างสุดทางดี อีกทั้งงานออกแบบและดีไซน์ต่าง ๆ ก็ทำออกมาได้ค่อนข้างรู้สึกตื่นตาตลอดทั้งเรื่องดี จนอยากจะมีโอกาสได้ดูหนังเรื่องนี้บนจอใหญ่ ๆ ในโรงหนังเลยทีเดียว
Bubble บับเบิ้ล สนุกไหม
งานภาพเรื่องนี้คือดีแบบมากๆ โดยเฉพาะฉากปากัวร์ที่เป็นฉากโชว์ของของเรื่องนี้ ที่ต้องมีการติดตามการเคลื่อนไหวพร้อมท่าทางที่ดูแล้วต้อทึ่งว่านี่เป็นผลงาน 2D Animation แล้วทำได้อลังการขนาดนี้ อีกพาร์ทที่ทำให้หลายคนประทับใจคือเพลงประกอบของเรื่องนี้ที่ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของหนังเลย แต่ปัญหาอยุ๋ที่พาร์ทเนื้อเรื่องที่เหมือนเอาหลายๆ อย่างมาปะติดปะต่อกันโดยขาดรากฐานที่มั่นคง โดยเฉพาะการปากัวร์ของเรื่องที่เราไม่ทราบสาเหตุที่แต่ละคนเลือกมาปากัวร์ รวมถึงกฎกติกาการชนะ เหตุผลการที่หนีจากโลกภายนอกมาอยู่ในบับเบิ้ล เมื่อขดรากฐานที่แข็งแรงเลยทำให้เนื้อเรื่องส่วนอื่นๆ ดร็อปไปหมด bubble พากย์ไทย