รีวิว อัศจรรย์วิญญาณอลเวง
การ์ตูนดิสนีย์ เป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาดมากของดิสนีย์ที่นำแอนิเมชันของ Pixar อย่าง SOUL ลงสตรีมทาง Disney+ ทั้งที่เป็นโปรแกรมหนังที่หวังด้านรายได้ได้เลยแต่ด้วยสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID 19 ที่ยังไม่มีแนวโน้มดีขึ้นการตัดสินใจดังกล่าวก็ถือว่าพอเข้าใจได้แต่กระนั้นสำหรับเมืองไทยหนังยังได้สิทธิ์ฉายโรงอยู่แต่การโปรโมตก็นับว่าน้อยมากจนกลัวหลาย ๆ คนไม่ได้ดู ผมจึงขออนุญาตป่าวประกาศความดีงามของหนังในรีวิวฉบับนี้แบบไม่มีกั๊กเลยแล้วกันนะครับ
ช่วงนี้ในหน้าฟีดเฟสบุ๊ค หรือในช่องทางโซลเชียลมีเดีย จะเห็นหลายคนพูดถึงภาพยนต์เรื่องใหม่จาก Disney และ Pixar เรื่อง Soul อัศจรรย์วิญญาณอลเวง ที่สามารถให้เข้าใจความสุขของการมีชีวิตอยู่ ทั้งมีคำวิจารณ์ที่ดีมากๆ
เรื่องย่อ อัศจรรย์วิญญาณอลเวง
รีวิว อัศจรรย์วิญญาณอลเวง เรื่องย่อ โจ ครูสอนดนตรีต็อกต๋อยผู้รักดนตรีแจ๊สเป็นชีวิตจิตใจและในวันหนึ่งที่เขาได้เข้าใกล้ความฝันด้วยการได้รับเลือกให้เป็นมือเปียโนประจำวงแจ๊สชื่อดังทว่าด้วยความโชคร้ายเขากลับประสบอุบัติเหตุไปก่อนเวลาอันควร จนวิญญาณของเขาได้ระเห็จไปยังหนทางสู่ปรโลกแต่เขาก็สามารถหนีโชคชะตามาได้แต่ดันไปโผล่ในดินแดนก่อนโลกและถูกเข้าใจผิดว่าเป็นวิญญาณพี่เลี้ยงจนได้จับคู่กับหมายเลข 22 (ทีนา เฟย์) ดวงวิญญาณอนุบาลที่ไม่อยากไปเกิดเป็นมนุษย์ ทั้งสองจึงทำข้อตกลงกันว่าหากโจสามารถทำให้หมายเลข 22 หาเป้าหมายและได้สิทธิ์ไปเกิดบนโลกโจจะได้รับสิทธิ์กลับสู่ร่างตัวเอง แล้วการผจญภัยของทั้งสองก็เริ่มขึ้น soul อัศจรรย์วิญญาณอลเวง รีวิว
ขอสารภาพก่อนเลยว่าเนื้อเรื่องที่เพิ่งเขียนไปยังไม่ได้เล่าเรื่องราวเกินกว่า 30% เลยครับเพราะอยากให้ทั้งคนไปเสพความดีงามของหนังกันในโรงด้วยตัวเองแต่เอาแค่เรื่องราวที่ผมเขียนไปกับที่เราเห็นในตัวอย่างหนังแค่นี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่า Pixar นี่ไม่เคยสิ้นไร้ไอเดียเจ๋ง ๆ จริง ๆ และลำพังแค่เรื่องการตามหาตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ของพีต ด็อกเตอร์ผู้กำกับ UP และ Inside Out ก็ทำให้เราอึ้งแล้วคราวนี้ลีลาการเล่ายังข้ามเส้นความเป็นแอนิเมชันเมนสตรีมแบบสมควรปรบมือให้
โดยประการแรกเลยคือพีต ด็อกเตอร์ที่คราวนี้ขอดันเคมป์ เพาเวอร์สมาเขียนบทและกำกับร่วมได้สร้างโลกของวิญญาณ ชีวิตก่อนและหลังความตายได้น่าสนใจมากที่สำคัญคือมันเกินจากสิ่งที่ศาสนาพร่ำบอกแค่เรื่องความดีความชั่วแต่มันตั้งคำถามระดับอภิปรัชญาอย่าง เราเกิดมาทำไม? ได้ชวนคิดและคล้อยตามมากซึ่งในหนังทั่วไปโจอาจถูกปฏิบัติประหนึ่งฮีโร่ที่ล่าฝันและเอาชนะความตายกลายเป็นนักดนตรีที่ประสบความสำเร็จ เว็บดูอนิเมะ,ดูอนิเมะ
รีวิว อัศจรรย์วิญญาณอลเวง
ตรงกันข้ามเลย…แอบบอกให้นิดนึงว่าหนังให้โอกาสโจได้กลับมายังโลกจริงนะครับแต่เชื่อไหมว่าคนดูได้กลายเป็นฝั่งที่ได้เรียนรู้พร้อมกับโจ และหลายอย่างที่นำเสนอก็สั่นคลอนความเชื่อและคติเดิมในการใช้ชีวิตอยู่ไม่น้อย ผมยังจำซีนในร้านตัดผมได้ชัดเจนมากบทหนังให้โจไปเจอเพื่อนเก่าที่ต้องมาเป็นช่างตัดผมและคำตอบของคำถามที่ว่าคนเราชีวิตจะมีความหมายไหมถ้าเราไม่ได้ทำตามความฝันนี่มันเหนือความคาดหมายจริง ๆ และแน่นอนว่ามันส่งผลต่อการมองโลกของตัวละครทั้งสองและคนดูอย่างเราเข้าจัง ๆ soul ภาษาไทย
ประการต่อมาขอขยายจากข้อแรกว่าด้วยโลกหลังความตายอันนี้แม้ผิวเผินมันจะเหมือนแอบลอกการบ้านงานเก่าอย่าง Inside Out มาบ้างแต่ด้วยองค์ประกอบและการลำดับการเล่าเรื่องชั้นเซียนมันกลับทำให้เราคล้อยตามและชวนคิดมากเพราะคราวนี้แทนที่จะสร้างทุกอย่างออกมาเป็น 3 มิติเราเริ่มเห็นการออกแบบคาแรกเตอร์ที่ดูเป็นนามธรรมมากขึ้นโดยอาศัยโครง ๆ จากศิลปะแนวแอ็บสแตร็ก (Abstract) ที่ลดทอนเหลือแค่เส้นสาย(จากภาพที่ออกมาเหมือนได้แรงบันดาลใจจากแนว Cubism ของ Picasso)
ซึ่งแทนที่เราจะรู้สึกว่าการออกแบบคาแรกเตอร์ที่เป็นเส้น ๆ แบบนี้ดูลวก ไม่ตั้งใจวาด มันกลับทำให้เรามองเห็นความรัดกุมของบทอันว่าด้วยโลกหลังความตายและการพูดถึงนามธรรมและสิ่งสมมติได้อย่างลึกล้ำ เอาเป็นว่าต่อให้คุณไม่เคยสนใจปรัชญาการดูหนังเรื่องนี้ก็จะทำให้ได้คุ้นเคยและไม่แปลกแยก
ส่วนใครที่เชี่ยวชาญหรือสนใจด้านปรัชญาอยู่แล้วก็จะไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจเลยแหละจะมีข้อเสียอยู่บ้างก็ตรงที่เรื่องราวและลีลาการเล่าเรื่องของมันอาจจะยิ่งห่างไกลจากการเป็นแอนิเมชันสำหรับเด็กออกไปทุกทีนี่แหละครับ
ประการสุดท้ายนอกจากงานภาพและบทภาพยนตร์แล้ว งานเพลงของหนังก็นับว่ากล้าและท้าทายคนดูแอนิเมชันค่ายปราสาทและโคมไฟไม่น้อยเพราะคราวนี้พีต ด็อกเตอร์เลือกใช้บริการ เทรนซ์ เรซเนอร์ และ แอตติคัส รอส จากวง Nine Inch Nails ซึ่งโด่งดังจากการทำเพลงให้หนัง The Social Network ของเดวิด ฟินเชอร์ ซึ่งคราวนี้มันก็ช่วยให้เรื่องราวของ SOUL ในส่วนที่เป็นโลกหลังความตายยิ่งลึกล้ำและภาคดนตรีของพวกเขาก็เสริมส่งบรรยากาศของโลกดังกล่าวให้ยิ่งสมบูรณ์และเปี่ยมความหมายมากขึ้น
การ์ตูนดิสนีย์ อัศจรรย์วิญญาณอลเวง
เอาล่ะแม้เราจะขึ้นต้นว่าเราจะอวยหนังเรื่องนี้แบบไม่ลืมหูลืมตาแต่หากจะให้หาข้อเสียมันก็ยังพอเห็นได้อยู่บ้างนะครับเช่นการที่หนังเปิดประเด็นเรื่องความรักของโจไว้แต่ไม่สานต่อหรือเรื่องราวในอาชีพครูดนตรีที่เชื่อว่าถ้าพีต ด็อกเตอร์จะทำหนังสั้นอีกซักเรื่องเกี่ยวกับโจในฐานะครูดนตรีเราก็ไม่ขัดข้องเลยแหละเพราะบอกได้เลยว่าการได้ดูเรื่องราวของครูโจแม้ช่วงสั้น ๆ ตอนต้นของหนังมันก็ “ดีต่อใจ” ไม่แพ้เรื่องราวส่วนที่เหลือเลย
Soul อัศจรรย์ วิญญาณ อลเวง เป็นภาพยนต์ที่งดงามตามไสตล์ของดิสนีย์ และพิกซ่า อยู่แล้ว ที่มันดีงามเพราะว่า ในหนังเรื่องนี้ได้รับจิตวิญญาณของ Disney ลงไปด้วย !! คือ สปิริตของความช่างฝันของดิสนีย์ที่อยู่ในหนังจากสตูดิโอผู้สร้าง UP ปู่ซ่าบ้าพลัง , COCO , และ Inside out
Alert พูดถึงหนัง นิดนึงคือ ในหนัง soul ทำให้เราคิดได้ว่า เรามีภาพจำของสวรรค์ ว่าเป็นที่ที่มีความสุข อะไรก็ดีไปหมด ทำไมนรกถึงดูโหดร้ายมีการทำโทษ มันทำให้เราเปลี่ยนมุมมองของนรกไป ในหนังใช้คำว่า นรกแบบรีแบรนด์ดิ้ง ซึ่งเป็นที่ที่ให้คำปรึกษาและพัฒนาคนที่ทำตัวไม่ดีให้กลายเป็นวิณญาณที่ดีแล้วส่งกลับโลก เราว่าแบบนี้เป็นเรื่องที่งดงามมากอะเราชอบ
แต่ประเด็นที่ผมจะพูดถึงในวันนี้อาจจะเป็นข้อสังเกตเล็ก ๆ จากหนังที่ผมจะไม่พูดถึงหนังโดยตรงเพราะอยากให้ทุกคนไปดู ผมจะพูดถึงเรื่องของ “การเข้ามาของใครบางคน อาจจะทำให้เรารู้ว่าความงดงามของชีวิตคืออะไร
การเข้ามาของใครบางคน มันคือบทเรียนในชีวิตเหมือนกันนะครับ โดยที่ผมเชื่อว่า soul เรื่องนี้สอนให้เห็นเรื่องของการตัดสินคนอยู่เบา ๆ เหมือนกัน
การเอาไม้บรรทัดของตัวเองไปวัดความสุขของคนอื่น คือในวันที่เรามองโลกว่าโหดร้าย แย่และเราไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อบนโลก การเข้ามาของคนที่ดี คนที่หลงรักชีวิตของตัวเองทำให้เราเห็นมุมมองที่ต่างออกไปจากการพูดคุยกับคนแบบนี้ เพราะเขาอาจจะมองมุมมองที่เขามีต่อโลก และส่งต่อทัศนคติดี ๆ มาให้เรา Soul (2020 037hd)
เราอาจจะเคยคิดว่า ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ ความฝันของเราคือเหตุผลของการมีชีวิต แต่ผมหลังดูหนัง Soul เรื่องนี้จบกลับรู้สึกว่า เป้าหมายและความฝันจริง ๆ เป็นแค่แรงจูงใจของการมีชีวิตเท่านั้นครับ แต่เหตุผลที่ทำให้มีชีวิตอยู่ หรือความงดงามของการมีชีวิตหรือ Meaning of life จริง ๆ คือระหว่างทางที่จะไปถึงมัน ในวันที่เราพลาดในวันที่เราสุข นั้นแหละคือสิ่งที่เราทำให้ชีวิตของเรามีความหมายจริง ๆ ครับ
และคุณอาจจะได้รู้ Meaning of life ของคุณจริง ๆ หลังจากดูหนัง soul เรื่องนี้จบ !! อยากให้ดูนะครับเพราะปีนี้มีหนังดี ๆ ไม่เยอะ เรื่องนี้เป็นหนึ่งในนั้นครับ
โดยส่วนตัวนั้นคงต้องบอกเลยว่า “Soul อัศจรรย์วิญญาณอลเวง” เป็นหนึ่งในนั้นที่เฝ้ารอคอยดูมากที่สุดของปี 2020 เพราะแค่ได้ยินชื่อทีมผู้สร้างหนังและยังติดยี่ห้อ พิกซาร์ สตูดิโอ เข้าไปด้วยแล้ว ก็สามารถคาดหวังเอาไว้ล่วงหน้าก่อนได้เลย เพราะค่ายนี้เขาได้ชื่อว่าพิถีพิถันกับผลงานสุดๆ บรรจงสร้างเหมือนกับเลี้ยงลูกคนหนึ่ง และคอนเซ็ปต์ของหนังเรื่องนี้ยังว่าด้วยเรื่อง…ดวงวิญญาณ มันต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ
รีวิว อัศจรรย์วิญญาณอลเวง
Soul อัศจรรย์วิญญาณอลเวง เป็นเรื่องราวของ โจ การ์ดเนอร์ ครูสอนดนตรีที่โรงเรียนแห่งหนึ่ง เข้าได้รับโอกาสที่รอคอยมาทั้งชีวิตด้วยการได้รับเลือกให้ร่วมแสดงที่แจ๊สคลับที่ดีที่สุดของเมือง แต่เพียงแค่การก้าวพลาดไปเพียงแค่นิดเดียว ทำให้เขาตื่นมาอีกทีในรูปแบบดวงวิญญาณตัวน้อย ในสถานที่มหัศจรรย์ที่ไม่สามารถอธิบายเป็นคำพูดได้
เขารู้สึกสับสนเป็นอย่างมาก ผนวกกับความผิดหวังที่ตัวเองไม่อาจจะได้ทำสิ่งที่ใฝ่ฝันมาทั้งชีวิต ทำให้เขาเชื่อว่านี่ยังคงไม่ใช้เวลาที่เขาจะต้องตาย จึงได้ออกตามหาหนทางเพื่อกลับไปยังโลกมนุษย์อีกครั้ง ทำให้เขาได้ไปเจอกับ 22 ดวงวิญญาณแก่แดด ผู้ที่ไม่ยอมผ่านบททดสอบเพื่อไปเกิดใหม่ การผจญภัยครั้งใหม่ของพวกเขาได้เริ่มต้นขึ้น พร้อมๆ กับการสำรวจและค้นหาสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต นั่นก็คือ…การเป็นตัวเอง
ยังไม่ได้วิเคราะห์วิจารณ์อะไรมาก แต่เราก็สามารถหยิบเอา Soul ขึ้นไว้บนหึ้งได้เลย นี่กลายเป็นอีกหนึ่งหนังแอนิเมชั่นสุดคมคายของพิกซาร์ ที่อาจจะมาพร้อมกับประเด็นที่ไม่เด็กสักเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ยากที่จะซึมซับและเรียนรู้ตามไปด้วย ในขณะที่ผู้ใหญ่ได้ดูหนังเรื่องนี้ก็อาจจะได้แรงบันดาลใจและข้อคิดในการใช้ชีวิตแบบเยอะเป็นกองเลยทีเดียว
หนังมีบทที่แข็งแรงและแข็งแกร่งมากจริงๆ สตอรี่ของหนังเต็มไปด้วยเหตุผล แม้ว่าจะอยู่บนสถานการณ์ที่เกินจริงไปมากก็ตาม ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบทิศทางเรื่องและเนื้อหาโดยรวมแทบไม่มีอะไรให้ติ เป็นช่วงเวลา 100 นาทีที่คนดูสามารถอิ่มเอมไปกับการผจญภัยของ 2 ดวงวิญญาณคู่นี้ได้อย่างน่าประทับ โดยที่ผู้กำกับ “พีท ด็อกเตอร์” (จาก Inside Out) กลับมาท็อปฟอร์มอีกครั้ง
โดยรวม อัศจรรย์วิญญาณอลเวง
รีวิว อัศจรรย์วิญญาณอลเวง อันที่จริงตัวหนังก็อาจจะมีองค์ประกอบบางอย่างคล้ายๆ กับ Inside Out ผลงานเรื่องก่อนของผู้กำกับ โดยเฉพาะการนำเอาประเด็นในรูปแบบนามธรรม กลั่นกรองออกมาเป็นรูปธรรมได้อย่างลงตัว คราวก่อนเขาเล่นกับภาวะอารมณ์ของคน แต่คราวนี้เปลี่ยนมาหยิบจิตวิญญาณของมนุษย์เล่นดูบ้าง และต้องยอมรับว่าเขาขยี้ประเด็นออกมาได้ถึงกึ๋นจริงๆ
ไม่เพียงเท่านั้น เสน่ห์ความเข้ากันและความไหลลื่นในการเล่าลื่นยังเป็นสิ่งที่ดีในหนังเรื่องนี้ ตัวละครหลักๆ อย่าง โจ การ์ดเนอร์ กับ 22 ก็ไม่ต่างกับคนทั่วไปที่กำลังมองหาสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ ทำตามใจตัวเอง มีนิสัยทั้งด้านดีและด้านเสีย พวกเขาจึงเป็นคาแรกเตอร์ที่จัดได้ว่ามีความมนุษย์ค่อนข้างสูงมากๆ สูงกว่าบรรดาตัวละครในหนังแอนิเมชั่นเรื่องอื่นๆ ด้วยซ้ำ
ระหว่างที่ดูหนังเรื่องนี้อยู่ก็แอบคิดเล่นๆ ขึ้นมาว่า ถ้าหากนำเอาเรื่องนี้ไปสร้างเป็นฉบับคนแสดงจริง ก็คงจะไม่สามารถถ่ายทอดออกมาได้ในโทนบรรยากาศเช่นนี้ น่าจะเป็นหนังแฟนตาซีเพ้อๆ ไปสักหน่อย แต่เมื่อมาเล่าเรื่องอยู่ในรูปแบบแอนิเมชั่น บนพื้นฐานความเป็นการ์ตูนทำให้เราได้มองข้ามความสมจริงในบางอย่างไป และได้อิ่มเอมไปด้วยวัตถุประสงค์หลักที่หนังต้องการสื่อถึงได้อย่างเต็มอิ่ม
แต่ก็ใช่ว่า Soul อัศจรรย์วิญญาณอลเวง จะเป็นหนังที่ไม่มีจุดด้อยเลย ต้องยอมรับว่าหนังค่อนข้างกระชับและเล่าเรื่องได้อย่างฉับไว ทำให้บางทีคนดูก็ยังไม่ทันได้ซึมซับอารมณ์นั้นๆ ได้เต็มที่อย่างที่ควร จึงน่าเสียดายที่ประเด็นที่ดีของหนัง ยังบีบเค้นใจคนดูได้ยังไม่สุดทาง เพราะจังหวะของหนังที่ยังมีบางช่วงที่โดดๆ ไปอยู่บ้างนิดหน่อย
อย่างไรก็ตาม เมื่อว่าถึงภาพรวมของ Soul อัศจรรย์วิญญาณอลเวง เรื่องนี้ นับว่าเป็นโปรแกรมหนังส่งท้ายปีที่น่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง เด็กดูได้…ผู้ใหญ่ดูแล้วอาจจะน้ำตาซึม หนังสอดแทรกแง่ขึ้นในการใช้ชีวิตได้ค่อนข้างดี ยิ่งคนดูที่เป็นผู้ใหญ่ที่ผ่านการใช้ชีวิตมาช่วงเวลาหนึ่ง อาจจะต้องเป็นเป้าหมายของหนังเรื่องนี้ หนังทำให้ฉุกคิดย้อนไปถึงเรื่องราวต่างๆ เหมือนแฟลชแบ็กเกิดขึ้นมากมาย
แม้ว่าหนังจะอยู่บนพื้นฐานความเป็นการ์ตูนและแฟนตาซี แต่หนังก็มีความเป็นมนุษย์อยู่ค่อนข้างสูง กับข้อคิดที่ใส่เข้ามาที่ช่วยเตือนย้ำและส่งสารไปถึงคนดูได้ดีว่า ชีวิตของเรา…มีเพียงแค่ชีวิตเดียว เกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นวัฏจักรชีวิตที่ทุกคนต้องพบเจอ เพียงแต่ระหว่างการดำรงชีวิตอยู่นั้น เราได้ทำและได้ค้นพบสิ่งที่เป็นตัวของเราเองแล้วหรือยัง? อัศจรรย์วิญญาณอลเวง 2020