รีวิวดิสนีย์ สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด
การ์ตูนดิสนีย์ Snow White and the Seven Dwarfs สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ดภาพยนตร์อนิเมชั่นสีขนาดยาวเรื่องแรกของ Walt Disney และ Hollywood ที่ใช้การวาดด้วยมือ (Cel Animated) ดัดแปลงมาจากเทพนิยายของ Brothers Grimm, ทุกความยิ่งใหญ่มีจุดเริ่มต้น แม้เรื่องราวจะเรียบง่าย เน้นความบันเทิง แต่แฝงอะไรแนวคิดบางอย่างไว้ และเทคนิค ลูกเล่น ชั้นเชิงในการนำเสนอ เป็นสิ่งควรค่าที่จะ “ต้องดูให้ได้ก่อนตาย” ดูอนิเมะ
รีวิวดิสนีย์ สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด
ผมจำไม่ได้ว่าสมัยตอนเป็นเด็กเคยดูอนิเมชั่นเรื่องนี้หรือเปล่า แต่อาจเคยได้ยินหรือได้อ่านจากที่ไหนสักที่ และจดจำเรื่องราวได้เป็นอย่างดี คงไม่ถือเป็นการสปอยนะครับ เพราะผมเชื่อว่าใครๆก็คงน่าจะรู้จักเรื่องราวนี้กันอยู่แล้ว, สโนไวท์มีแม่เลี้ยงที่ชอบถามกระจกวิเศษว่า ‘กระจกวิเศษ จงบอกข้าเถิด ใครงามเลิศในปฐพี’ กระจกจะตอบว่า ‘สโนวไวท์’ แม่เลี้ยงได้ยินก็หัวเสียอย่างมาก ครั้งหนึ่งปลอมตัวเป็นยัยแก่ เอาแอปเปิ้ลเคลือบยาพิษไปหลอกให้สโนไวท์ที่อยู่กับคนแคระทั้งเจ็ดกิน แล้วเธอก็สลบไสลหลับไม่ตื่นจนกว่าจะมีเจ้าชายที่มีรักแท้มาจุมพิตจึงจะฟื้นคืนชีพขึ้นมา Snow White story
การ์ตูนดิสนีย์ สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด
รีวิวดิสนีย์ สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด ตอนสมัยผมเรียนมหาวิทยาลัย เริ่มไล่หาหนังเก่าๆดู ก็เป็นเหมือน ‘คนไทย’ ทั่วๆไป ที่ไม่ได้มีความสนใจหนัง ‘การ์ตูน’ เรื่องนี้ เพราะคิดว่าคงเป็นเรื่องสำหรับเด็ก แต่พอมาได้ยินกิตติศัพท์ ว่าเป็นอนิเมชั่นขนาดยาวเรื่องแรกของสตูดิโอ Walt Disney และของ Hollywood อีกทั้งยังติดชาร์ท AFI: Greatest American Films Of All Time (2007) [ตอนนั้นกำลังเห่อดูชาร์ทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม] ก็ถึงคราต้องหามาดู
แม้เรื่องราวจะเป็นแบบที่ผมเข้าใจจดจำได้เปะๆ แต่ก็มีบางสิ่งบางอย่างที่เห็นแล้วทึ่งมากๆ นับจากนั้นทัศนคติของผมต่ออนิเมชั่น Disney ก็เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง มุมหนึ่งที่ไม่คิดอะไรเด็กๆดูได้ อีกมุมหนึ่งผ่านการคิดวิเคราะห์ ผู้ใหญ่น่าจะเห็นอะไรบางอย่าง แม้จะไม่ลึกซึ้งเท่ากับอนิเมะจากสตูดิโอ Ghibli ของญี่ปุ่น แต่ก็ถือว่า ‘น่าติดตาม’ นับจากนั้นผมก็ไล่ล่าหาอนิเมชั่นเรื่องอื่นๆของค่ายนี้มาดู ถ้านับแค่ในช่วงชีวิตของนาย Walt Disney มีอนิเมชั่นที่เขาเป็นโปรดิวเซอร์ทั้งหมด 19 เรื่อง (เรื่องสุดท้ายคือ The Jungle Book-1967) ปัจจุบัน (2016) มีอนิเมชั่นที่สร้าง Disney มากกว่า 50 เรื่องแล้วนะครับ ถ้าใครจะไล่ดูให้หมด คงต้องใช้เวลาพอสมควรเลยละ snow white พากย์ไทย
กับคนที่เคยอ่าน Snow White ที่เป็นต้นฉบับเทพนิยายของ Brothers Grimm จะรู้ว่าสิ่งที่ผมเล่ามาไม่ใช่เรื่องราวที่ตรงตามต้นฉบับทั้งหมด มีหลายอย่างที่ Disney ได้ทำการแก้ไขดัดแปลงเปลี่ยนไป อาทิ ขณะที่สโนว์ไวท์วิ่งหนีเข้าไปในป่าลึก มาถึงกระท่อมขนาดเล็ก รู้สึกเหน็ดเหนื่อย หมดแรงจนผลอยหลับไป พอตื่นขึ้นจึงได้พบกับคนแคระทั้ง 7 ที่ช่วยดูแลเธอ และเสนอให้อาศัยอยู่ที่นี่ แลกกับการที่เธอจะทำอาหารและทำความสะอาดบ้านให้, นายพราน (Huntsman) หลังจากที่ปล่อยสโนว์ไวท์ให้หนีไป เนื่องจากราชีนิ (แม่เลี้ยงสโนว์ไวท์)
สั่งให้เอาตับและปอดของเธอใส่กล่อง นายพรานจึงฆ่าหมูป่า (Boars) เอาตับกับปอดมอบให้ราชินี ซึ่งเธอก็หยิบกินทั้งดิบๆแบบนั้น มารู้ภายหลังโดยกระจกวิเศษ ที่บอกว่าที่กินไปนั้นเป็นตับและหัวใจปลอม, แม่เลี้ยงพยายามฆ่าสโนไวท์ถึง 3 ครั้ง โดยปลอมตัวเป็นหญิงชราไม่ซ้ำหน้า ครั้งแรกขายสายรัดตัว (Corset) ทำให้เธอหายใจไม่ออก แต่รอดมาได้เพราะคนแคระช่วยไว้ ครั้งที่ 2 มอบหวีเคลือบยาพิษ (poisoned comb) รอดเพราะเหล่าคนแคระช่วยไว้ได้ทัน และครั้งสุดท้าย หลอกล่อให้เธอกินแอปเปิ้ลเคลือบยาพิษ
ทุนการสร้างเรื่องนี้ สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด
จนกลายเป็นเจ้าหญิงนินทรา, เหล่าคนแคระคิดว่าเธอเสียชีวิตไปแล้ว จึงได้สร้างโลงแก้วเก็บรักษาร่างเธอเอาไว้วันหนึ่งเจ้าชายสุดหล่อเดินทางผ่านมาและเห็นสโนว์ในโลงแก้ว เขาตกหลุมรักเธอทันที และพูดจาเกลี้ยกล่อมให้คนแคระอนุญาติให้เขาเอาโลงแก้วและร่างของเธอกลับเข้าเมืองเพื่อประกอบพิธีศพที่ยิ่งใหญ่สมเกียรติ snow white and the seven dwarfs 1937 พากย์ไทย
ซึ่งขณะขนย้าย คนแบกโลงได้สะดุดรากต้นไม้ล้ม และยาพิษในคอสโนไวท์ไหลออกมาทำให้เธอได้สติฟื้นคืนชืพเจ้าชายเห็นดังนั้นจึงประกาศตน แสดงความรักและขอเธอแต่งงาน พวกเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข Happily ever after!, ส่วนชะตากรรมของแม่เลี้ยงผู้ชั่วร้ายเมื่อเจ้าชายกลับเข้าเมือง ก็เชิญเธอไปร่วมงานแต่งงาน และถูกสั่งให้แม่เลี้ยงใส่รองเท้าเหล็กร้อนๆ และบังคับให้เต้นรำจนขาดใจตาย
ในเวอร์ชั่นของ Brothers Grimm ดูจะมืดหม่นกว่ามากนะครับแน่นอนเรื่องราวเช่นนี้จะถูกดัดแปลงไปเป็นภาพยนตร์อนิเมชั่นให้เด็กดูได้ยังไง
ในการดัดแปลง Snow White นาย Disney พุ่งเป้าไปที่ การพัฒนาตัวละครแต่ละตัวให้มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ มากกว่าเนื้อเรื่องด้วยซ้ำ โดยใส่ Comedy เข้าไปเพื่อสร้างบรรยากาศสนุนสนานครื้นเครง, แม้ตัวละครหลักๆจะคือแม่เลี้ยงใจร้ายและสโนว์ไวท์แต่ตัวละครที่แย่งซีนทั้งหมดคือคนแคระทั้งเจ็ดและสรรพสัตว์ที่เคลื่อนไหวอย่างไหลลื่นมีชีวิตชีวาราวกับเข้าใจภาษามนุษย์
รีวิวดิสนีย์ สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด
สโนว์ไวท์ (Snow White) องค์หญิงที่มีความงดงามที่สุด ผมสีดำขลับเหมือนไม้ตะโก (Ebony) ริมฝีปากสีแดงฉานราวกับดอกกุหลาบและผิวขาวผุดผ่องประหนึ่งหิมะ, มีชุดของสโนไวท์ 2 ชุดในหนัง ตอนต้นเป็นผ้าขี้ริ้วขาดๆ และตอนหลังชุดที่ถือว่าเป็น iconic dress เสื้อท่อนบนสีน้ำเงิน กระโปรงยาวสีเหลือง ปกเสื้อสูงสีขาวผูกโบว์สีแดง
และสวมรองเท้าสีเหลือง, สโนว์ไวท์เป็นหญิงสาวที่มีจิตใจบริสุทธิ์ไร้เดียงสา อ่อนหวาน ร่าเริง ด้วยความที่มีจิตใจโอบอ้อมอารีเธอจึงชอบช่วยเหลือผู้อื่น และเชื่อคนง่ายนี่เองที่ทำให้ใครๆ (โดยเฉพาะแม่เลี้ยง) ชอบเอารัดเอาเปรียบเธอ, พากย์เสียงโดย Adriana Caselotti นี่เป็นบทแรกและบทเดียวของเธอเพราะนาย Disney ได้ทำสัญญาถาวรกับเธอไว้ว่าจะต้องไม่ให้เสียงหรือแสดงในหนังเรื่องใดอีก (เพื่อเป็นการรักษาเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของ Snow White เอาไว้) Snow White and the Seven Dwarfs live action
ทฤษฎีของการ์ตูนเรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด
รีวิวดิสนีย์ สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด มีทฤษฎีสมคบคิดหนึ่งที่ผมอ่านแล้วก็ทึ่งว่าคิดไปได้ยังไง แต่ก็ไม่ได้มองว่าเป็นไปไม่ได้นะครับ รู้ไว้เป็นความรู้รอบตัวเหมือนกัน,ในสมัยนั้น (ยุค 30s) มีคำเรียกหรือชื่อเล่นหรือคำแสลงของโคเคน (cocaine) สารเสพติดประเภทกระตุ้นประสาท (ประเภท 2 ยาเสพติดให้โทษทั่วไป)ว่า Coke, Snow, White ฯ และสำหรับคนแคระทั้ง 7 เปรียบเสมือนอาการของคนที่เสพโคเคน
เริ่มต้นจากมีความสุข (Happy) จากนั้นเกิดอาการมึนเมา (Dopey) แล้วก็เริ่มคันจมูก จาม (Sneezy) หลังจากยาหมดฤทธิ์ก็เริ่มง่วง (Sleepy) เมื่อไม่ได้ใช้นานๆจะเกิดอาการหงุดหงิด (Grumpy) อารมณ์จะแกว่งๆ บางครั้งก็จะอับอาย (Bashful) เลวร้ายต้องไปหาหมอ (Doc),อย่างที่บอกไปตอนแรก นี่เป็นทฤษฎีสมคบคิดนะครับ ใครอยากเชื่อก็เชื่อไม่อยากเชื่อก็ฟังหูไว้หู รู้ไว้ไม่เสียหาย
สำหรับแม่เลี้ยงผู้ชั่วร้ายผู้หลงใหลคลั่งไคล้ในความงามของตนเอง ทำให้เธอเกิดความอิจฉาริษยาต่อสโนวไวท์ที่สวยงามกว่าตนอย่างรุนแรงถึงกับวางแผนฆ่าเธอโดยใช้วิธีการอันชั่วร้าย,ตัวละครนี้สร้างขึ้นเพื่อเป็นบทเรียนสอนเด็ก ต่อความน่ารังเกียจของคนที่หลงตนเอง (Narcissism) และหยิ่งในศักดิ์ศรี (Pride) ที่สุดท้ายแล้วสังคมก็ไม่ยอมรับ (เธอถูกประหารในเวอร์ชั่นของ Brothers Grimm),ในเวอร์ชั่นของ Disney เธอตกหน้าผาตาย นี่มองได้ว่าเป็นการ ‘ทำตัวเอง’ จากที่เคยอยู่จดสูงสุดเป็นถึงราชินี ตกลงสู่เบื้องล่างต่ำสุด
กลายเป็นยัยแก่ที่มีจิตใจต่ำช้า, ให้เสียงโดย Lucille La Verne เธอเป็นนักแสดงที่มีชื่อเสียงพอสมควรตั้งแต่ยุคหนังเงียบ แต่พอเปลี่ยนมาเป็นยุคพูด เธอกลับมักไม่ค่อยได้รับบทให้พูดเสียเท่าไหร่ ซึ่งพอนาย Disney เลือกเธอมาให้เสียงตัวละครนี้ก็ทำสัญญาแบบเดียวกันกับ Adriana Caselotti (ที่พากย์สโนว์ไวท์) คือจะต้องไม่ให้เสียงหรือแสดงหนังอีกต่อไป ทำให้นี่กลายเป็นหนังเรื่องสุดท้ายของเธอ